วันนี้ (7 ก.ย.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่สำรวจทางเท้าเส้นทางซอยอินทามระ 14 ถึงแยกสะพานควาย เขตพญาไท เพื่อทดสอบการใช้พอรัสแอสฟัลต์ (Porous Asphalt) ปูบริเวณโคนต้นไม้ การปรับปรุงทางเท้าทั้งเส้น ด้วย Universal Design และการปรับภูมิทัศน์นำสายสื่อสารลงดิน
นายชัชชาติ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างปรับปรุงทางเท้าใน 17 เส้นทาง โดยในปีนี้จะดำเนินการประมาณ 200 กิโลเมตร สิ่งที่สำคัญ คือต้นไม้บนทางเท้าต้องสามารถรดน้ำได้และหายใจได้ ซึ่งจากการไปดูงานที่เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ามีการใช้ยางมะตอยพอรัสแอสฟัลต์ปูบนทางเท้าก่อนใช้กระเบื้องปูทับเพื่อให้น้ำสามารถซึมลงไปได้ และยังสามารถช่วยเมืองในกรณีระบายน้ำจากถนนได้ด้วย เนื่องจากพอรัสแอสฟัลต์ เป็นแอสฟัลต์ประเภทที่มีรูพรุน มีคุณสมบัติเด่นในการระบายน้ำในแนวดิ่ง ทำให้รากต้นไม้สามารถระบายอากาศและรับการรดน้ำได้ดี และช่วยเพิ่มพื้นที่ทางเท้าได้บางส่วน ซึ่งก่อนจะเทต้องมีการปรับปรุงดินและใส่ปุ๋ยให้เรียบร้อย จากนั้นใส่ทรายใส่กรวด ก่อนดำเนินการลาดยางมะตอย ทำให้น้ำลงไปที่รากต้นไม้ได้เต็มที่ 100%
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพอรัสแอสฟัลต์ที่ใช้เทบริเวณโคนต้นไม้เส้นทางซอยอินทามระ 14 ถึงแยกสะพานควาย ตามโครงการนำร่องการใช้พอรัสแอสฟัลต์ทดแทนการปูอิฐบล็อกเพื่อขยายพื้นที่ทางเท้า ซึ่งภาพรวมก็เรียบเสมอกับทางเดินเท้าดี และน้ำสามารถไหลผ่านได้ดี วิธีนี้เมื่อมีการซ่อมแซมปรับปรุงทางเท้าก็จะทำให้แก้ไขได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งการสร้างทางเท้าในรูปแบบนี้ได้มีการสร้างท่อสายสื่อสารใต้ดินไว้รองรับผู้ประกอบการสาธารณูปโภค และรองรับการขยายท่อประปาในอนาคตอีกด้วย ลดปัญหาการขุดก่อสร้างทางเท้าซ้ำซาก ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน โดยประชาชนตลอดเส้นทางชื่นชมว่าสามารถก่อสร้างได้รวดเร็ว นอกจากนี้ เพื่อให้ถนนในกรุงเทพฯ เดินได้สะดวดขึ้น แก้ปัญหาการจราจร และสามารถเชื่อมต่อกับการเดินทาง เช่น รถไฟฟ้า และระบบ Feeder ในอนาคตจะปรับเปลี่ยนทางเดินเท้าให้เป็น covered walkway ซึ่งมีหลังคาคลุมตลอดเส้นทาง ซึ่งในขณะนี้มีการดำเนินการแล้วที่บริเวณโรงเรียนหอวัง
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ต้องขอความร่วมมือ คือ เรื่องของหาบเร่แผงลอย ต้องไม่กลับมาขายบนทางเท้าที่ห้ามขาย รวมถึงรถจักรยานยนต์ห้ามขับขี่บนทางเท้า ซึ่งเส้นทางในวันนี้มีร้านซ่อมรถจักรยานยนต์จำนวนมาก ก็ได้ขอความร่วมมือให้ประชาสัมพันธ์บอกลูกค้าว่าอย่าขับขี่บนทางเท้าเพื่อนำรถขึ้นมาซ่อม แต่ให้ใช้วิธีจูงรถจักรยานยนต์ขึ้นมาซ่อมแทน เนื่องจากน้ำหนักของรถจักรยานยนต์ส่งผลต่อความเสียหายของกระเบื้องทางเท้า อีกทั้งเกิดอันตรายแก่ประชาชนคนเดินเท้า และยังผิดกฎหมายอีกด้วย