นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน โพสต์ระบุว่า องค์การรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบความไม่โปร่งใส และอาจส่อไปในทางส่อทุจริต ในการจัดประกวดราคา โครงการจ้างเหมาเอกชนผลิตใบอนุญาตทำงาน และให้บริการรับคำขอและการแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว (Outsourcing Service) จำนวน 15 ล้านใบ โดยมีการร่วมมือกันอย่างเป็นกระบวนการ ระหว่าง เจ้าหน้าที่ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน กรรมการทีโออาร์ กรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศกระทรวงแรงงาน และ บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในโครงการดังกล่าว ซึ่งมีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานเป็นแม่งาน ภายใต้งบประมาณ 7,950,000,000 บาท (เจ็ดพันเก้าร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน)
การดำเนินโครงการดังกล่าว มีการล็อกสเปกกันอย่างน่าเกลียด มีการนำบริษัทคู่เทียบที่เป็นเครือข่ายเดียวกันมาหลอกทางราชการ โดยกำหนดทีโออาร์ ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ได้เพียงยี่ห้อเดียวเท่านั้น และ นำบริษัทในซุ้ม 3 บริษัท ที่เตรียมจัดฮั้วทำราคากลาง และ คู่เทียบ ไปเป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์ ดังกล่าว โดยบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในโครงการไม่ยอมออกหนังสือตัวแทนผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัทอื่น(นอกจาก 3 บริษัท) เพื่อเป็นกันปิดกั้น หรือ ป้องกันคู่แข่งรายอื่นที่ไม่ได้เป็นพวกหรือเคลือข่ายเดียวกันมาเข้าประมูลงานแข่ง และได้งาน โดยมีเงินทอนให้ขาใหญ่ไปกว่า 1,200 ล้านบาท
พฤติการณ์ดังกล่าว อาจขัดต่อกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ 2560 และ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล 2542 องค์การรักชาติ รักแผ่นดินจึงจำต้องนำความไปร้องเรียนปลัดกระทรวงแรงงาน ในวันศุกร์ที่ 1 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. ณ กระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง เพื่อขอให้ตั้งกรรมการสอบกรมการจัดหางานและพวก ว่ามีการกระทำดังกล่าวจริงหรือไม่ หากพบเป็นความจริงให้เสนอรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเพื่อสั่งระงับโครงการดังกล่าวเสีย และเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป หากไม่ดำเนินการ จะนำความไปร้องกรรมาธิการ ส.ส./ส.ว.และ ป.ป.ช.เพื่อสอบเอาผิดต่อไป