นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง "รัฐบาลมิจฉาชีพ" โดยระบุว่า
อันการเมืองยุคนี้ เสมือนหนึ่งเรื่องหลอกลวงของแก๊งคอลเซนเตอร์ไม่ผิดเพี้ยน แสร้งตีหน้าเศร้าเล่าต่อสาธารณชนว่า แสนเป็นห่วงบ้านเมืองวิกฤต เศรษฐกิจย่ำแย่ ปากท้องของพี่น้องต้องไปดูแล ต้องมีรัฐบาลอย่างเร่งด่วนไม่งั้นประเทศจะเสียหาย
แต่ธาตุแท้กล้าเอาอุดมการณ์เร่ขาย เพื่อแลกกับการกลับบ้านของคนเพียงคนเดียว ด้วยขบวนการนโยบาย "เทคนิคหลอกประชาชน" ดั่ง "แก๊งคอลเซนเตอร์" ที่ใช้การหลอกพ่อแม่ว่าลูกถูกทำร้าย ให้โอนเงินมาให้ ที่จริงลูกไม่รู้เรื่อง แต่สร้างเรื่องขึ้นมา นักการเมืองก็ใช้พรรคการเมืองเป็นสถานที่ และโลโก้ เพื่อลวงให้ประชาชนหลงเชื่อจนไปลงคะแนนให้ แต่พอได้อำนาจ ที่เคยบอกว่าต่อต้านเผด็จการ กลับไปเจือสมกับซากเผด็จการเสียเองจนสำเร็จความใคร่ แล้วดันให้ "นายกฯ นอมินี" ผ่านกระบวนการฟอกขาว จึงถือได้ว่าไม่ได้เป็น "รัฐบาลของประชาชน" แต่เป็น "รัฐบาลมิจฉาชีพ" โดยแท้ เพราะหลอกล่อ สร้างเรื่อง ปล้นคะแนนประชาชนมา แล้วยังเอาคะแนนประชาชนไปร่วมกันทำอุบายกับผู้ที่เคยยึดอำนาจ เสมือนหนึ่งการกระทำของมิจฉาชีพต้มตุ๋น พฤติการณ์จึงไม่ได้แตกต่างกัน กลับแย่กว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะเป็นการกระทำที่เปิดเผยโล่งโจ้งต่อหน้าธารกำนัล
แต่เรื่องราวกลับไม่ได้จบง่ายอย่างที่นักการเมืองมิจฉาชีพปรารถนา อันเนื่องมาจากการสะดุดขาตัวเองบนบันไดขั้นสุดท้ายก่อนขึ้นสู่อำนาจสูงสุด
วันอังคารที่ 15 สิงหาคม จะเปิดเผยพฤติกรรมของบุคคลที่กำลังขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศ ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น เพราะฉ้อฉลปล้นเงินผู้ถือหุ้นอย่างชัดเจน จึงถือเป็นเกียรติยศยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตของผม ที่ได้แฉเพื่อชาติ “กระชากหน้ากากคนโกง เปิดโปงคนชั่ว ไม่เกรงกลัวอิทธิพล”