นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม กล่าวถึงจุดยืนในการเลือกนายกรัฐมนตรี หลังจากพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รวบรวมเสียงข้างมาก ที่อาจจะมีพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมรัฐบาล โดยยืนยันว่า พรรคเป็นธรรมมีอุดมการณ์ชัดเจนที่เชื่อมั่นว่าการสถาปนาอำนาจรัฐต้องมาจากมติมหาชน การพยายามให้พรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 ไปเป็นฝ่ายค้าน เป็นรูปแบบที่บิดเบี้ยว การให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน จึงเป็นการทำให้ระบอบประชาธิปไตยบิดเบี้ยว ดังนั้น 1 เสียงของพรรคเป็นธรรมจึงชัดเจนว่า หากมีพรรค 2 ลุงเข้าร่วมรัฐบาล จะไม่เลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ไม่ส่งเสริมการสืบทอดอำนาจ แม้หากพรรคก้าวไกลจะตัดสินใจร่วมโหวตให้พรรคเพื่อไทย ก็เป็นสิทธิของพรรคก้าวไกล แต่พรรคเป็นธรรมจะไม่โหวตให้อย่างแน่นอน แม้จะกลายเป็นเสียงเดียวในสภาฯ ก็ตาม
นายกัณวีร์ กล่าวว่า พรรคเป็นธรรมเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า แม้จะเพิ่งจบการเลือกตั้งไป แต่จากการสนับสนุนของประชาชน จึงต้องสร้างความพร้อมจะเป็นพรรคที่ต่อสู้ในระดับชาติให้ได้ จะไม่ใช่พรรคพื้นที่ แต่จะปรับโครงสร้าง ข้อบังคับพรรค ทำให้พรรคฯ มีประสิทธิภาพ ทำงานการเมือง เชิงยุทธศาสตร์มากขึ้น ซึ่งทีมเก่าในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น ปาตานีบารู ได้ยุติบทบาทกับพรรคเป็นธรรมไปแล้ว โดยมีทีมใหม่เข้ามาทำงานทั้งหมด รวมถึงการทำงานของสาขาพรรค ก็ได้ตั้งสาขาใหม่ที่ จ.นราธิวาส มีนายฮาฟิส ยะโก๊ะ อดีตผู้สมัคร ส.ส. นราธิวาส พรรคเป็นธรรมมาเป็นหัวหน้าสาขา
นายกัณวีร์ ย้ำว่า แม้ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ก็จะใช้กลไกของฝ่ายนิติบัญญัติผลักดันทุกนโยบายของพรรคเป็นธรรมให้เกิดขึ้นจริง และยังมีความหวังว่า รัฐบาลของประชาชนจะกลับมา เราอาจจะไม่ได้เป็นฝ่ายค้านอย่างที่กำลังมีความพยายามทำให้ประชาธิปไตยบิดเบี้ยวอยู่ก็ได้