นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในชุมชนพร้อมใจ ถนนพิบูลสงคราม ซ.6 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ว่าได้รับความความเดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างคอนโดหรู 36 ชั้น บนถนนพิบูลสงคราม ซ.6-8 ที่กำลังก่อสร้างอยู่หน้าชุมชน ตรงข้ามโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม ซึ่งได้เกิดปัญหาการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองและเสียงดัง มีเศษหินดินทราย และวัสดุต่างๆ ตกใส่หลังคาบ้านเรือน และมีน้ำผสมปูนตกใส่รถยนต์เสียหายเป็นอย่างมากนั้น
เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังเทศบาลนครนนทบุรี และตัวแทนผู้ก่อสร้างมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ถูกเพิกเฉยมาโดยตลอด โดยการก่อสร้างไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ หรือ คชก. ให้ความเห็นชอบเมื่อคราวการประชุมครั้งที่ 29/2560 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2560 หลายประการ แต่ทางเทศบาลนครนนทบุรีกลับไม่ใส่ใจที่จะบังคับให้เจ้าของโครงการฯปฏิบัติโดยเคร่งครัดแต่อย่างใด จนกระทั่งชาวบ้านเขาสุดจะทนจึงนำความเดือดร้อนไปโพสต์ลงโซเชียลและร้องสื่อมวลชน
แต่พอเหตุดังกล่าวมีสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียนำเสนอข่าวกันอย่างครึกโครม เทศบาลนครนนทบุรีกลับเพิ่งลุกขึ้นมาออกคำสั่งการปกครอง สั่งระงับการก่อสร้าง และสั่งให้ทางเจ้าของคอนโดฯ ดำเนินการเยียวยาชุมชนข้างเคียงให้เรียบร้อย โดยเทศบาลจะเป็นตัวกลางพูดคุยกันระหว่างผู้รับจ้าง กับชาวบ้าน รวมทั้งเจ้าของโครงการในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานเทศบาลฯ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกัน และทำข้อตกลงกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
โครงการฯ ดังกล่าวเมื่อตรวจสอบในเชิงลึก ยังพบว่ารายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่บริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมได้จัดทำขึ้นแล้วจัดส่งให้เทศบาลนครนนทบุรีและสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ทราบทุก 6 เดือนนั้น ปรากฏว่ารายงานข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหลายเรื่อง ทุกอย่างดีเลิศประเสริฐศรีไปหมด เช่น ค่าฝุ่นละออง ค่าเสียงไม่เกินมาตรฐาน และยังบอกอีกว่าไม่พบการร้องเรียนเกี่ยวกับการก่อสร้างจากชาวบ้านเลยสักครั้ง แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้ามกับรายงานโดยสิ้นเชิง
กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการจำนนด้วยหลักฐาน เทศบาลนครนนทบุรีจำต้องออกคำสั่งระงับการก่อสร้างตาม ม.40 (1) (2) และ ม.41 พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 ไปปิดไว้ที่หน้าไซด์งานเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม รวม 3 ฉบับ แต่ทว่าวันนี้กลับไม่ยังพบหนังสือคำสั่งดังกล่าวแล้ว และยังพบว่ายังมีการทำงานในพื้นที่ก่อสร้างกันอยู่ตามปกติ ถือเป็นการฝ่าฝืน ม.40 (2) อันชี้ให้เห็นว่าการก่อสร้างได้มีการละเมิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง อันเป็นความผิดสำเร็จไปแล้วหลายกรณี แต่เทศบาลกลับไม่ทำอะไร
ทั้งนี้ สมาคมฯ จะทำหนังสือสอบถามและร้องเรียนไปยังเทศบาล ผู้ว่าฯ นนทบุรี และ สผ. ว่า จะมีบทลงโทษทางกฎหมายต่อเจ้าของคอนโด จป.วิชาชีพ และบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าวอย่างไร เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างสำหรับโครงการก่อสร้างอื่นๆที่ชอบก่อความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเยี่ยงนี้ และชอบเลี่ยงกฎหมาย รวมทั้งการรายงานข้อมูลอันเป็นเท็จด้วย หากไม่มีคำตอบก็จักนำความไปฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตทั้งหมดต่อไป