นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ถึงโอกาสในการทำตลาดข้าวในสวิตเซอร์แลนด์
โดยทูตพาณิชย์รายงานว่า ประธานคณะกรรมการมูลนิธิ Fairtrade Max Havelaar นาง Kathrin Amacker ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจเพื่อสังคม (ไม่แสวงผลกำไร) ในสวิตเซอร์แลนด์ ที่ส่งเสริมการค้าที่เป็นธรรม หรือ แฟร์เทรด เปิดเผยว่า แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสงคราม แต่ผู้บริโภคสวิตเซอร์แลนด์ยังคงเลือกซื้อสินค้าแฟร์เทรดมากขึ้น อัตราการบริโภคต่อหัวเฉลี่ย 104 ฟรังก์สวิสต่อปี (ประมาณ 4,100 บาท) ทำให้สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่ใช้จ่ายเงินสําหรับสินค้าแฟร์เทรดมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ซึ่งในปี 2565 ยอดขายสินค้าแฟร์เทรดในสวิตเซอร์แลนด์ มีมูลค่ากว่า 913 ล้าน ฟรังก์สวิส (ประมาณ 36,000 ล้านบาท) สำหรับสินค้าข้าวแฟร์เทรด จากเดิมปี 2564 ครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 31 ได้ขยับขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 39 ขึ้นเป็นอันดับ 3 ในปี 2565 มียอดขายรวมกว่า 23.61 ล้านฟรังก์สวิส (ประมาณ 938 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.5 โดยตลาดข้าวสวิตเซอร์แลนด์ ข้าวที่ได้รับการรับรองแฟร์เทรด มีสัดส่วนถึงร้อยละ 31 โดยในสัดส่วนดังกล่าวเป็นข้าวที่ได้การรับรองออร์แกนิกถึงร้อยละ 72
โดยสินค้าแฟร์เทรดเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในสวิตเซอร์แลนด์และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตรารับรองแฟร์เทรดเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยให้ผู้ประกอบการมีตลาดพิเศษเฉพาะ ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นธรรมในการค้า จึงถือเป็นโอกาสทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการไทย
โดยสินค้าแฟร์เทรดของไทยที่มีศักยภาพในตลาดสวิตเซอร์แลนด์ คือ ข้าว นอกจากการนําเสนอข้าวพรีเมียม เช่น ข้าวหอมมะลิ ซึ่งมีคุณภาพ และรสชาติเป็นที่รู้จักดีในตลาดสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ข้าวตลาดเฉพาะอย่างข้าวอินทรีย์ ข้าวโภชนาการสูง เช่น ข้าวกล้อง ข้าวสี ข้าวไรซ์เบอร์รี จะเป็นสินค้าที่สามารถเจาะตลาดคนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี