xs
xsm
sm
md
lg

คุก 5 ปี ปรับ 1 แสน รอลงอาญา "หมอเหรียญทอง"หมิ่นประมาท"สิระ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันที่ 7 สิงหาคม 2566 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่ นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหน้า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามมาตรา 328

คำฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 22-26 ธันวาคม 2564 จำเลยได้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "เหรียญทอง แน่นหนา" โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กหมิ่นประมาทโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมทั้งหมด 5 ครั้ง ต่างกรรมต่างวาระกัน ทำนองว่า โจทก์ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติเป็นผู้สมัคร ส.ส. เพราะเคยต้องคำพิพากษาและถูกตัดสิทธิทางการเมือง 20 ปี และข้อความทำนองว่า บุกรุกโรงพยาบาลสนาม จนต้องเลื่อนการเปิดโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดินออกไป จนทำให้กระทบกับผู้ป่วยโควิด-19 รวมทั้งข้อความอื่นๆ ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

โดยวันนี้ พล.ต.นพ.เหรียญทอง พร้อมทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามกำหนดนัด ขณะที่โจทก์ส่งเสมียนทนายความมาแทน

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าการที่จำเลยโพสต์ข้อความลักษณะดังกล่าวลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะ มีประชาชนเข้าไปโพสต์แสดงความคิดเห็นต่อท้าย ถือว่าเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ประกอบมาตรา 326 เป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเรียงกระทงความผิดไป แต่การกระทำไม่ถึงกับเป็นร้ายแรง พิพากษาจำคุกรวม 5 กระทง กระทงละ 1 ปี ปรับกระทงละ 2 หมื่นบาท รวมจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท อย่างไรก็ตาม จำเลยได้ประกอบคุณงามความดีและเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ให้ลบข้อความหมิ่นประมาทที่โพสต์ลงในเฟซบุ๊กทั้งหมด และให้ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ฉบับใดฉนับหนึ่ง โดยจำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา

ทั้งนี้ นายสิระ ได้ฟ้อง พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาทั้งหมด 4 คดี มีคำพิพากษาแล้วรวม 3 คดี คือ คดีหมายเลขดำที่ อ 1919/2564 ศาลได้พิพากษาจำคุก 3 ปี และปรับ 3 แสนบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ.1510/2565 ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปีและปรับ 2 แสนบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา และคดีนี้ หมายเลขดำ อ.326/2565 ซึ่งได้พิพากษาจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท ส่วนคดีที่ 4 คือ คดีหมายเลขดำที่ อ.2577/2565 ศาลได้นัดสืบพยานในเดือนกุมภาพันธ์ 2567