น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิด-19 รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์การด้านแรงงานทั่วประเทศ ซึ่งพบว่าภาวะการมีงานทำของประชาชนได้ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติได้แจ้งข้อมูลจากการสำรวจสถานการณ์การมีงานทำของคนไทย ณ ไตรมาสที่ 2 (เม.ย.-มิ.ย.) ปี 2566 ว่า ทั้งจำนวนผู้มีงานทำ ผู้ทำงานเต็มเวลา ยังอยู่ในทิศทางปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ พบว่าในไตรมาสที่ 2 จำนวนผู้มีงานทำอยู่ที่ 39.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.6 แสนคน เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปี 2565 ขณะที่ชั่วโมงการทำงานก็มากขึ้น สะท้อนถึงปริมาณงานในระบบที่มากขึ้น โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าผู้ที่ทำงานเต็มเวลา หรือทำงาน 35-49 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นประมาณ 5.6 แสนคน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ส่วนผู้ที่ทำงาน 50 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นประมาณ 3.5 แสนคน ในขณะที่ผู้ที่ทำงานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ลดลงประมาณ 2.4 แสนคน
ส่วนทางด้านการว่างงาน พบว่าในไตรมาส 2 มีผู้ว่างงานเฉลี่ย 4.3 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.1 ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่การว่างงานอยู่ที่ 5.5 แสนคน หรือร้อยละ 1.4 และทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/66 ที่มีการว่างงาน 4.2 แสนคน หรือร้อยละ 1.1
น.ส.ไตรศุลี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตัวชี้วัดในภาพรวมของสถานการณ์แรงงานดีขึ้นและไม่มีสัญญาณบ่งชี้ที่น่ากังวล ในส่วนการว่างงานระยะยาว หรือผู้ที่ว่างงานเกินกว่า 1 ปีขึ้นไปนั้น ณ ไตรมาส 2 ปี 2566 จำนวนก็ลดลงเหลือ 7.4 หมื่นคน เทียบกับ 1.4 แสนคน ในช่วงเดียวกันของปี 2565