จากกรณี ชบาแก้ว กระทิงป่าตาบอด เพศเมีย อายุประมาณ 30 ปี ที่ลงไปหาน้ำกินแล้วติดหล่มจมอยู่ในโคลนลึกครึ่งตัว ขยับตัวไม่ได้ บริเวณริมถนนแนวเขตอุทยานฯ หลังโรงแรมทอสคาน่า เขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง ห่างจากหน่วยพิทักษ์ฯ ผากระดาษไปประมาณ 1 กม. เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ช่วยนำรถเครนยกขึ้นมาจากโคลนแล้วนำมาดูแลที่หน่ายพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.2 ผากระดาษ ต.หมูสี อ.ปากช่อง พบว่ามีแผลโคลนในหูด้านขวามีหนอนเยอะสัตวแพทย์ได้ให้ยารักษา และชบาแก้วยังมีอาการอ่อนเพลีย ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (30 ก.ค.) นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้รับรายงานจาก นายคำมวน ทองแต้ม หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.2 ผากระดาษ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ชบาแก้ว กระทิงตาบอดที่นำมาดูแลบริเวณที่คอกบริเวณหน่วยพิทักษ์ได้หมดลมสิ้นใจแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ หลังจากอ่อนเพลียไม่ลุกขึ้นมากินอาหาร จึงได้แจ้งสัตวแพทย์หญิง ชนัญยา กาญจนสาขา หรือ หมอโบ สัตวแพทย์ประจำ สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) เดินทางมาตรวจพิสูจน์ซาก
ทั้งนี้ คาดว่า อาจจะมีโรคประจำตัว ประกอบกับกระทิงชบาแก้วมีอายุมากแล้ว มีการอ่อนเพลียตั้งแต่นำขึ้นมาจากการจมอยู่ในโคลน คงมีอายุขัยแค่นี้ และได้นิมนต์พระอธิการ กัมปนาท สุเขโร เจ้าอาวาสวัดหมูสี นำพระสงฆ์ 4 รูป มาประกอบพิธีสวดส่งวิญญาณ และนำซากกระทิงฝังกลบในพื้นที่ต่อไป
วันนี้ (30 ก.ค.) นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้รับรายงานจาก นายคำมวน ทองแต้ม หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.2 ผากระดาษ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ชบาแก้ว กระทิงตาบอดที่นำมาดูแลบริเวณที่คอกบริเวณหน่วยพิทักษ์ได้หมดลมสิ้นใจแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ หลังจากอ่อนเพลียไม่ลุกขึ้นมากินอาหาร จึงได้แจ้งสัตวแพทย์หญิง ชนัญยา กาญจนสาขา หรือ หมอโบ สัตวแพทย์ประจำ สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) เดินทางมาตรวจพิสูจน์ซาก
ทั้งนี้ คาดว่า อาจจะมีโรคประจำตัว ประกอบกับกระทิงชบาแก้วมีอายุมากแล้ว มีการอ่อนเพลียตั้งแต่นำขึ้นมาจากการจมอยู่ในโคลน คงมีอายุขัยแค่นี้ และได้นิมนต์พระอธิการ กัมปนาท สุเขโร เจ้าอาวาสวัดหมูสี นำพระสงฆ์ 4 รูป มาประกอบพิธีสวดส่งวิญญาณ และนำซากกระทิงฝังกลบในพื้นที่ต่อไป