นายสแตนลีย์ คัง ที่ปรึกษาอาวุโส หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) เปิดเผยว่า ในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติเวลานี้หวังให้ไทยมีรัฐบาลใหม่เร็วที่สุด อย่างช้าไม่เกินเดือนสิงหาคม หากลากยาวออกไปจะส่งต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะการลงทุนใหม่ๆ จะขาดการพิจารณา เพราะรัฐบาลรักษาการไม่สามารถอนุมัติได้ นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบกับภาระหนี้สินของเอกชนที่รอความชัดเจนนโยบายด้านการเงิน
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังเชื่อว่าทุกอย่างจะจบได้ด้วยการเจรจา แม้ว่าพรรคที่ได้คะแนนพรรคอันดับ 1 จะไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังมีพรรคลำดับที่ 2 อยู่ ไม่ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ยินดีร่วมงานด้วย และทันทีที่รัฐบาลใหม่ตั้งสำเร็จ หอการค้าต่างประเทศ เตรียมจะเข้าหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ เพื่อนำเสนอ 3 เรื่องเร่งด่วนของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบด้วย การสร้างอาชีพใหม่ ต้นทุนดอกเบี้ย และการสร้างมูลค่าให้กับตลาด ซึ่งรัฐบาลใหม่ควรเร่งเดินหน้าเจรจากับต่างประเทศ และมองหาโอกาสใหม่ๆ จากวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯ จีน และสหภาพยุโรป