นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง และตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม่ แถลงผลการหารือถึงทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล
นพ.ชลน่าน ระบุว่า หลังจากพรรคก้าวไกล ในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้แถลงการณ์ และส่งมอบภารกิจให้พรรคอันดับที่ 2 คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้ปรึกษาหารือถึงทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้ได้รัฐบาลของฝ่ายเสรีประชาธิปไตย และในที่ประชุมมีมติ ดังนี้
การประชุมรัฐสภา วันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ประธานรัฐสภาได้บรรจุระเบียบวาระในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ประชุมมีมติใ ห้พรรคเพื่อไทยส่งผู้ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อ โดยพรรคก้าวไกลเป็นผูัเสนอชื่อให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มีความมุ่งมั่นร่วมกัน ให้เป็นไปตามความคาดหวังของพี่น้องประชาชน 27 ล้านเสียงที่เลือกเรามา
ส่วนข้อเสนอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาลดเพดาน มาตรา 112 นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ข้อเสนอของที่ประชุมร่วมให้แนวทางว่า พรรคก้าวไกลอยากทราบรายละเอียดถึงการลดเงื่อนไขว่าคืออะไร จึงได้มอบหมายพรรคเพื่อไทยไปหารือกับสมาชิกวุฒิสภาแต่ละท่าน เพื่อให้พรรคก้าวไกลนำกลับไปพิจารณา
ทั้งนี้ เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า มาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้าง เป้าหมายสูงสุด คืออยากเห็นการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล ตามที่ประชาชนลงคะแนนเสียงมา ตอนนี้โดยมารยาท ต้องมอบหมายบทบาทหลักให้ทางพรรคเพื่อไทย ในการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ เรื่องการลดเพดานมาตรา 112 เป็นภารกิจของพรรคเพื่อไทยในการดำเนินการ โดยมารยามพรรคก้าวไกลได้ส่งไม้ต่อไปแล้ว ต้องรอรายละเอียดจากพรรคเพื่อไทยอีกที
นพ.ชลน่าน ระบุว่า หลังจากพรรคก้าวไกล ในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้แถลงการณ์ และส่งมอบภารกิจให้พรรคอันดับที่ 2 คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้ปรึกษาหารือถึงทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้ได้รัฐบาลของฝ่ายเสรีประชาธิปไตย และในที่ประชุมมีมติ ดังนี้
การประชุมรัฐสภา วันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ประธานรัฐสภาได้บรรจุระเบียบวาระในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ประชุมมีมติใ ห้พรรคเพื่อไทยส่งผู้ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อ โดยพรรคก้าวไกลเป็นผูัเสนอชื่อให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มีความมุ่งมั่นร่วมกัน ให้เป็นไปตามความคาดหวังของพี่น้องประชาชน 27 ล้านเสียงที่เลือกเรามา
ส่วนข้อเสนอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาลดเพดาน มาตรา 112 นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ข้อเสนอของที่ประชุมร่วมให้แนวทางว่า พรรคก้าวไกลอยากทราบรายละเอียดถึงการลดเงื่อนไขว่าคืออะไร จึงได้มอบหมายพรรคเพื่อไทยไปหารือกับสมาชิกวุฒิสภาแต่ละท่าน เพื่อให้พรรคก้าวไกลนำกลับไปพิจารณา
ทั้งนี้ เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า มาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้าง เป้าหมายสูงสุด คืออยากเห็นการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล ตามที่ประชาชนลงคะแนนเสียงมา ตอนนี้โดยมารยาท ต้องมอบหมายบทบาทหลักให้ทางพรรคเพื่อไทย ในการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ เรื่องการลดเพดานมาตรา 112 เป็นภารกิจของพรรคเพื่อไทยในการดำเนินการ โดยมารยามพรรคก้าวไกลได้ส่งไม้ต่อไปแล้ว ต้องรอรายละเอียดจากพรรคเพื่อไทยอีกที