xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ สั่งขยายโอกาสการค้าฯ เชื่อมจุดผ่านแดน เพิ่มมุลค่าส่งออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายโอกาสการค้าและการลงทุน พร้อมเชื่อมโยงจุดผ่านแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปยังจีน

ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ระหว่างวันที่ 7 – 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และได้หารือกับภาคเอกชนไทยถึงโอกาสการขยายการค้า และการลงทุนใน สปป.ลาว โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศมองว่า สปป.ลาว นับเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการลงทุนของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในธุรกิจกาแฟ เพราะสปป.ลาว เป็นแหล่งปลูกกาแฟใหญ่เป็นอันดับ 3 ในอาเซียน การเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวของสปป.ลาว ทำให้ธุรกิจคาเฟ่เติบโตสูง และ สปป.ลาว ยังมีแผนพัฒนาคุณภาพการผลิตกาแฟให้ได้มาตรฐานสากล จึงทำให้ไทยและสปป.ลาว มีโอกาสขยายความร่วมมือกัน เพื่อสร้างเครือข่ายห่วงโซ่อุตสาหกรรมกาแฟกัน รวมทั้งการวิจัยเชิงวิชาการ การร่วมทุน และการใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีในกรอบอาเซียน เพื่อการค้ากาแฟระหว่างกัน

โอกาสนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้เดินทางไปสำรวจท่าบก (Dry Port) ท่านาแล้ง และสถานีรถไฟเวียงจันทน์ใต้ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่ส่งออกจากไทยผ่านด่านหนองคายไปยัง สปป.ลาว เพื่อขึ้นรถไฟต่อไปยังประเทศจีน ซึ่งจากการหารือกับผู้บริหารโครงการท่าบก ท่านาแล้ง พบว่า ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งออกผลไม้ไปจีนได้เพิ่มขึ้นมาก นับตั้งแต่เส้นทางรถไฟจีน-ลาวเปิดให้บริการเมื่อปี 2564 จากที่เดิมมูลค่าส่งออกจากไทยทางด่านหนองคายผ่านแดน สปป.ลาวไปจีนอยู่ที่ 90.41 ล้านบาท ในปี 2564 เพิ่มเป็น 1,964.89 ล้านบาท ในปี 2565 และเป็น 2,848.41 ล้านบาท ในช่วง 5 เดือนแรก ของปี 2566 โดยมีสินค้าไทยที่สำคัญคือ ผลไม้ไทย ทั้งทุเรียน มะม่วง สับปะรด ลำไย และมังคุด ซึ่งได้รับความนิยมในผู้บริโภคชาวจีนเพิ่มมากขึ้น