พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (หัวหน้าส่วนอำนวยการและสนับสนุน ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เป็นประธานการประชุม ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าว เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจเมาแล้วขับ เฉี่ยวชนรถผู้อื่นได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย และผู้เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดบนถนนเลียบคลองระพีพัฒน์ หน้าปั้ม ปตท. หมู่ 5 ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พื้นที่ สภ.วังน้อย
ทาง พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ส่งพวงหรีดเพื่อแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตทั้งสอง พร้อมสั่งการให้ พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวังน้อย ไปตรวจเยี่ยมนายณัฐวุฒิ อยู่ปราง ที่ รพ.บางปะอิน และได้ส่งตัวไปรับการรักษาที่ รพ.สิงห์บุรี และได้ตรวจเยี่ยม น.ส.วารุนี ที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ ทาง สภ.วังน้อย ได้เชิญ น.ส.มยุรี จำรัส ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาแนะนำให้กับ นางจำเนียร (แม่ของ น.ส.วันเพ็ญ ผู้เสียชีวิต)
นายนนทพัทร์, น.ส.วาสนา (ญาติของผู้บาดเจ็บ) ชี้แจงกรณีเงินเยียวยาค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา กรณี น.ส.วันเพ็ญ ผู้เสียชีวิต จะมีเงินเยียวยาค่าตอบแทน จำนวน 55,000 บาท กรณี ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับเงิน 45,000 บาท และรับเงินค่าชดเชยตามรายได้ 325 บาท/วัน ไม่เกิน 1 ปี จากสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการยื่นคำร้องเพื่อขอรับการเยียวยาตามยอดจำนวนเงินดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ยุทธนา อุทัยธรรม รอง ผกก.ป.สภ.วังน้อย และเป็นตัวเเทน สภ.วังน้อย นำพวงหรีดเเสดงความเสียใจ มอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้ร่วมฟังสวดพระอภิธรรม นายภูษิต (ผู้เสียชีวิต) กรณีเหตุรถชนกันพื้นที่ สภ.วังน้อย ณ วัดบัวโรย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 20,000 บาท และ พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย
พร้อมข้าราชการตำรวจ สภ.วังน้อย เดินทางร่วมงานสวดพระอภิธรรม นางสาววันเพ็ญ (ผู้เสียชีวิต) พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 20,000 บาท ทั้งนี้ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ส่งพวงหรีดร่วมเเสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายด้วยอีกส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. แจ้งข้อกำชับการปฏิบัติในการประชุมขับเคลื่อนติดตามสถานการณ์ประจำวันนี้ ซึ่งมีทุกหน่วยงานในระดับกองบัญชาการ และกองบังคับการ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ รับทราบ โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วย กำชับ กำกับ สอดส่อง ดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับ ในเรื่องการดื่มสุรา การประพฤติตนไม่สมควร และการกระทำความผิดตามกฎหมาย อันจะทำให้ราชการได้รับความเสียหายต่อภาพพจน์และชื่อเสียงของหน่วยงาน ซึ่งกรณีหากถูกดำเนินคดีในความผิดฐานเมาแล้วขับนั้น มีอัตราโทษสูงสุดคือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และหากเป็นการกระทำผิดซ้ำภายใน 2 ปี นับแต่วันที่กระทำความผิดครั้งแรก จะมีการเพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000 ถึง 100,000 บาท และถ้าการเมาแล้วขับนั้นเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ต้องระวางโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที นอกจากนี้จะต้องถูกลงโทษทางวินัยอีกด้วย มีทั้งความผิดวินัยร้ายแรง (หากเป็นการเมาสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่) ซึ่งมีอัตราโทษ ไล่ออกจากราชการ หรือ วินัยไม่ร้ายแรง (ไม่ได้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่) ก็จะมีอัตราโทษ กักขัง หรือ กักยาม ตามแต่กรณี และหากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ต้องโทษจำคุก (โดยไม่รอลงอาญา) ก็จะต้องถูกลงโทษ ให้ออกจากราชการ ปลดออก หรือไล่ออก แล้วแต่กรณีอีกด้วย
ทาง พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ส่งพวงหรีดเพื่อแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตทั้งสอง พร้อมสั่งการให้ พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวังน้อย ไปตรวจเยี่ยมนายณัฐวุฒิ อยู่ปราง ที่ รพ.บางปะอิน และได้ส่งตัวไปรับการรักษาที่ รพ.สิงห์บุรี และได้ตรวจเยี่ยม น.ส.วารุนี ที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ ทาง สภ.วังน้อย ได้เชิญ น.ส.มยุรี จำรัส ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาแนะนำให้กับ นางจำเนียร (แม่ของ น.ส.วันเพ็ญ ผู้เสียชีวิต)
นายนนทพัทร์, น.ส.วาสนา (ญาติของผู้บาดเจ็บ) ชี้แจงกรณีเงินเยียวยาค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา กรณี น.ส.วันเพ็ญ ผู้เสียชีวิต จะมีเงินเยียวยาค่าตอบแทน จำนวน 55,000 บาท กรณี ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับเงิน 45,000 บาท และรับเงินค่าชดเชยตามรายได้ 325 บาท/วัน ไม่เกิน 1 ปี จากสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการยื่นคำร้องเพื่อขอรับการเยียวยาตามยอดจำนวนเงินดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ยุทธนา อุทัยธรรม รอง ผกก.ป.สภ.วังน้อย และเป็นตัวเเทน สภ.วังน้อย นำพวงหรีดเเสดงความเสียใจ มอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้ร่วมฟังสวดพระอภิธรรม นายภูษิต (ผู้เสียชีวิต) กรณีเหตุรถชนกันพื้นที่ สภ.วังน้อย ณ วัดบัวโรย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 20,000 บาท และ พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย
พร้อมข้าราชการตำรวจ สภ.วังน้อย เดินทางร่วมงานสวดพระอภิธรรม นางสาววันเพ็ญ (ผู้เสียชีวิต) พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 20,000 บาท ทั้งนี้ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ส่งพวงหรีดร่วมเเสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายด้วยอีกส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. แจ้งข้อกำชับการปฏิบัติในการประชุมขับเคลื่อนติดตามสถานการณ์ประจำวันนี้ ซึ่งมีทุกหน่วยงานในระดับกองบัญชาการ และกองบังคับการ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ รับทราบ โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วย กำชับ กำกับ สอดส่อง ดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับ ในเรื่องการดื่มสุรา การประพฤติตนไม่สมควร และการกระทำความผิดตามกฎหมาย อันจะทำให้ราชการได้รับความเสียหายต่อภาพพจน์และชื่อเสียงของหน่วยงาน ซึ่งกรณีหากถูกดำเนินคดีในความผิดฐานเมาแล้วขับนั้น มีอัตราโทษสูงสุดคือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และหากเป็นการกระทำผิดซ้ำภายใน 2 ปี นับแต่วันที่กระทำความผิดครั้งแรก จะมีการเพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000 ถึง 100,000 บาท และถ้าการเมาแล้วขับนั้นเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ต้องระวางโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที นอกจากนี้จะต้องถูกลงโทษทางวินัยอีกด้วย มีทั้งความผิดวินัยร้ายแรง (หากเป็นการเมาสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่) ซึ่งมีอัตราโทษ ไล่ออกจากราชการ หรือ วินัยไม่ร้ายแรง (ไม่ได้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่) ก็จะมีอัตราโทษ กักขัง หรือ กักยาม ตามแต่กรณี และหากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ต้องโทษจำคุก (โดยไม่รอลงอาญา) ก็จะต้องถูกลงโทษ ให้ออกจากราชการ ปลดออก หรือไล่ออก แล้วแต่กรณีอีกด้วย