รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า วิเคราะห์สถานการณ์ระบาดไทย
สถิติรายสัปดาห์ล่าสุด 24 มิ.ย.-1 ก.ค. 2566
จำนวนป่วยนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 859 ราย
ลดลงกว่าสัปดาห์ก่อน 48.03%
และน้อยกว่า 4 สัปดาห์ก่อน 72.16%
จำนวนเสียชีวิต 43 ราย
เพิ่มขึ้นมากกว่าสัปดาห์ก่อน 19.44% หรือ 1.19 เท่า
แต่น้อยกว่า 4 สัปดาห์ก่อน 36.76%
จำนวนผู้ป่วยที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 166 ราย
เพิ่มขึ้นมากกว่าสัปดาห์ก่อน 1.22%
แต่น้อยกว่า 4 สัปดาห์ก่อน 31.69%
จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ 255 ราย
ลดลงกว่าสัปดาห์ก่อน 3.77%
และน้อยกว่า 4 สัปดาห์ก่อน 33.94%
"คาดประมาณติดใหม่รายวันอย่างน้อย 6,136-8,522 คน"
การระบาดของไทยระลอกล่าสุดนี้ เราใช้เวลาสู่พีค 8 สัปดาห์ และผ่านจากช่วงพีค (28 พ.ค.-3 มิ.ย.) มาแล้ว 4 สัปดาห์
สิ่งที่ต้องเน้นย้ำพวกเราคือ นี่คือบทพิสูจน์ให้เห็นว่า ระลอกการระบาดนี้ไม่ใช่หวัดตามฤดูกาลตามข่าวลวง แต่เห็นกันชัดเจนว่าเกิดจากปัญหาเรื่องพฤติกรรมป้องกันตัว การมีกิจกรรมแออัดตามเทศกาลต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา และการเปิดเรียนในสถานศึกษา
ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเกิดการปะทุซ้ำได้เสมอ หากมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ระหว่างดำรงชีวิตประจำวันโดยไม่ป้องกันตัว
การระบาดของทั่วโลกยังมีอยู่ ดังที่เห็นข่าว อาทิ การระบาดระลอกล่าสุดในประเทศญี่ปุ่นที่พื้นที่เขตปกครองส่วนใหญ่มีจำนวนเคสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบางพื้นที่ก็รุนแรงกว่าระลอกเดิม เช่น แถบโอกินาว่า เป็นต้น
...ความใส่ใจสุขภาพ ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท ป้องกันตัวสม่ำเสมอ เป็นเรื่องจำเป็น
เลี่ยงที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี
ไม่แชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่นนอกบ้าน
ใส่หน้ากากอย่างถูกต้องเสมอ จะช่วยลดเสี่ยงลงไปได้มาก
ติดเชื้อแต่ละครั้งไม่จบแค่ชิลๆ แล้วหาย แต่ป่วยได้ รุนแรงได้ ตายได้ และเสี่ยงต่อภาวะผิดปกติระยะยาวอย่าง Long COVID ด้วย
ป้องกันตัวไม่ให้ติด หรือไม่ติดซ้ำ ย่อมดีที่สุด