วันนี้ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้ารายงานตัว ส.ส. พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงหัวหน้าพรรคคนใหม่ ส่วนตัวมองว่าคงต้องผสมผสานกันทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า พรรคประชาธิปัตย์พูดเสมอว่าเราเป็นพรรคของคนทุกรุ่น ตนเข้าใจว่าคณะกรรมการบริหารที่จะได้รับความไว้วางใจเลือกเข้ามาจากสมาชิกต้องปฏิรูป และมองว่าพรรคคงต้องปฏิรูป ซึ่งครั้งนี้คงต้องทำอย่างจริงจังมากขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราถดถอยลงไปเยอะเหมือนกัน ทุกคนหวังว่าวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ จะได้กรรมการบริหารที่ออกมาแล้วมีความหวังมากขึ้น
ทั้งนี้ สิ่งที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ต้องเข้ามาทำเป็นอันดับแรกคืออะไร นายบัญญัติ กล่าวว่า หลายคนพูดถึงโครงสร้างของพรรค ก็ต้องมีการปรับปรุงบ้าง ที่สำคัญคือกรรมการบริหารใหม่ที่จะเข้ามาน่าจะมองปัญหาที่ตรงกัน เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าการเป็นการเมือง ความเป็นเอกภาพในเรื่องของแนวคิด มองปัญหาให้ตรงกัน ตนคิดว่าคงจะต้องมีการตั้งวง และพูดคุยกันให้ตกผลึกว่า มีอะไรที่ควรจะได้ทำ เพื่อนำพาไปสู่ความเติบโตและแข็งแรงเหมือนอย่างที่เป็นมาในอดีต
ส่วนหัวหน้าพรรคควรมีคุณสมบัติที่มีอุดมการณ์ตรงกับสิ่งที่พรรคต้องการ คือ ความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเรายืนหยัดเรื่องนี้มาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก แม้ช่วงหลังๆ ความชัดเจนเรื่องเหล่านี้ลดลงไปบ้าง เพราะสภาพการเมืองในประเทศมีหลายสิ่งหลายอย่างสับสนปนเป บางครั้งการยืนหยัดท้าทายอะไรบางอย่างตรงไปตรงมามากเกินไป ก็ใช่ว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ สิ่งที่ประชาธิปัตย์ระมัดระวังอยู่เสมอคือความรู้สึกประชาชนที่มีต่อพรรค บางครั้งระมัดระวังมากเกินไป ก็ทำให้เกิดภาวะเดินหน้าถอยหลังบ้าง ซึ่งบางครั้งอาจไม่ถูกใจคนรุ่นใหม่บ้าง
ส่วนจะมีการไปทาบทามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่นั้น นายบัญญัติ กล่าวว่า ไม่ถึงขั้นนั้น ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ก็จะมีสมาชิกพรรคเห็นว่ามีใครเหมาะสมก็จะไปเชื้อเชิญมา ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมา ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร ส่วนนายอภิสิทธิ์จะเหมาะสำหรับการปฏิรูปพรรคในขณะนี้หรือไม่ ก็มีคนพูดในทำนองนี้เยอะ และมีอีกหลายคนที่ถูกพูดถึง
นายบัญญัติ กล่าวด้วยว่า สำหรับชื่อของหัวหน้าพรรคคนใหม่ มีมากกว่าหนึ่งชื่อ ที่ยังไม่เป็นข่าวก็มี อันนี้เป็นเรื่องธรรมดา ต้องยอมรับความจริงว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีความเป็นประชาธิปไตยค่อนข้างสูง ความคิดก็จะแตกต่างกันออกไป ถ้ามีข้อยุติออกไปอย่างไรแล้ว ก็คงจะต้องเป็นไปตามนั้น