น.ต.ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ โพสต์ข้อความพาดพิงเรื่องชุดเครื่องแบบนักเรียน คือความเท่าเทียม ไม่ใช่การกดขี่ อย่าเอาแต่ใจว่า การที่บอกว่าเด็กใส่ชุดอะไรไปโรงเรียนก็ได้ หมายความว่าเป็นชุดที่เหมาะสมกับการเป็นนักเรียน หรือจะใส่ชุดนักเรียนก็ได้ แต่ถ้าผู้ปกครองไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียน ก็สามารถใส่ชุดอื่นได้ เพราะยังมีอีกหลายครอบครัวที่มีความลำบากต่อการจัดหาชุดนักเรียน ซึ่งก็ไม่ควรไปบังคับ เพราะระเบียบวินัยต้องเริ่มจากข้างใน มีระดับความรู้สึกนึกคิดของคน หรืออาจจะเป็นศีลธรรมก็ได้ ซึ่งระดับต่ำสุดของศีลธรรม คือการบังคับให้ต้องฝืนทำ และคนต้องยอมทำเพราะถูกบังคับ แต่เมื่อเด็กคนนั้นไปอยู่ในจุดที่ไม่มีการบังคับ ก็อาจควบคุมอะไรหลายหลายอย่างไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ฝึกวินัยตั้งแต่เด็ก
น.ต.ศิธา กล่าวด้วยว่า หลายประเทศทั่วโลกก็ไม่ได้บังคับให้เด็กใส่ชุดนักเรียน ซึ่งหลายประเทศก็มีความเจริญมากกว่าประเทศไทยด้วย จึงอยากถามว่าเด็กไทยมีความรู้สึกนึกคิดด้อยกว่าเด็กต่างชาติหรือไม่ ขณะเดียวกัน หากไม่บังคับให้ใส่ชุดนักเรียนจะเกิดความฟุ้งเฟ้อ มีการแข่งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพง เรากำลังจะบอกว่า การบังคับให้ทุกคนทั้งหมดต้องทำเหมือนกันเพื่อให้คนกลุ่มหนึ่งไม่ฟุ้งเฟ้อ ซึ่งถ้าโรงเรียนบอกว่าใส่ชุดอะไรไปก็ได้ การแข่งขันเหมือนกันแต่เมื่อมีการแข่งขันเรื่องการฟุ้งเฟ้อ โรงเรียนสามารถออกกฎห้ามใส่เสื้อคลุมผ้าที่มีราคาแพงก็ได้ ซึ่งก็จะเป็นการออกกฎที่ตรงกับเจตนารมณ์ และไม่รบกวนสิทธิคนอื่น
น.ต.ศิธา กล่าวว่า ในช่วงที่ตนรับราชการก็ใส่เครื่องแบบเพราะราชการกำหนด แต่ตอนนี้ไม่ใช่ข้าราชการแล้วก็ไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ส่วนในรัฐสภา ไม่ได้มีการบังคับให้ใส่เครื่องแบบรัฐสภา ดังนั้นบางคนก็แต่งกายด้วยเครื่องแบบ บางคนก็แต่งกายด้วยสุภาพเรียบร้อย ดังนั้นสำหรับโรงเรียนตนมองว่า การปลูกจิตสำนึกให้กับเด็ก ควรบาลานซ์เรื่องสิทธิเสรีภาพด้วย
น.ต.ศิธา กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวานนี้ตนได้พูดเรื่องโรงเรียนด้วยว่าถ้าโรงเรียนมีข้อกำหนดอยู่แล้ว หากเด็กเข้าไปก็ต้องทำตามกฎ ตนไม่ได้ให้ท้ายว่า เด็กที่ไม่ทำตามระเบียบโรงเรียนไม่ควรถูกลงโทษ เพราะควรทำตามระเบียบของโรงเรียน ดังนั้นให้ว่าไปตามบทลงโทษ แต่ความผิดเหล่านี้ไม่ใช่ให้พ้นสภาพการเป็นนักเรียน แต่ถ้าระเบียบที่บังคับให้เด็กต้องทำจะมีเรื่องของจริยธรรมและศีลธรรม ถ้าไม่ทำแล้วจะมีความผิด แต่ถ้าเด็กรู้ว่า ทำเพราะควรทำ เด็กจะเป็นคนที่พัฒนาตัวเองได้ดี
ส่วนที่นายสาธิตได้ตั้งคำถามว่ามีการเชียร์กันเกินไปหรือไม่ น.ต.ศิธา กล่าวว่า ตอนนี้คนมีความคิดสุดโต่งสองข้าง คือ หนึ่งต้องบีบบังคับเอียงไปทางเผด็จการ และสอง คือสิทธิเสรีภาพ ซึ่งประเทศเราเป็นประเทศประชาธิปไตยไม่ใช่สิทธิเสรีภาพ ไม่ใช่การเปิดโอกาสให้ทำอะไรทุกอย่างได้ คำว่าประชาธิปไตยคือการปกครอง การปกครองคือการจำกัดสิทธิ์ของคน แต่ก็พอจะมีสิทธิเสรีภาพดีที่สุดดีที่สุดเท่าที่จะไม่ไปล่วงละเมิดผู้อื่น เพราะฉะนั้นถ้าโรงเรียนมีกฎระเบียบแบบนี้เด็กก็ควรทำตาม หากทำผิดโรงเรียนก็ควรลงโทษตามกฎ แต่ไม่ใช่เอาหลายเรื่องมาโยงกัน