ตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) โดยมีองค์กรสมาชิก เครือข่ายสลัม 4 ภาค สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง นำโดยนายจำนงค์ หนูพันธ์ ยื่นหนังสือที่พรรคก้าวไกล โดยมีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เป็นผู้รับหนังสือ
นายจำนงค์ ได้อ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืน ระบุว่า
ในฐานะภาคประชาชน ขอเรียกร้องต่อพรรคการเมืองทั้งหมด ให้โหวตรับรองนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อร่วมกันสร้างหลักการประชาธิปไตยที่ต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ที่ผ่านกระบวนการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร
ต่อกรณีคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขอเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และศาลรัฐธรรมนูญ ควรพิจารณาประเด็นปมถือหุ้นด้วยการเคารพเจตนารมณ์ของบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และแนวทางการวินิจฉัยที่มุ่งสร้างหลักการประชาธิปไตยของประชาชน
ส่วนกรณีการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ต้องมีการเร่งรัด ติดตามการแก้ไขปัญหาและจำเป็นต้องมีรัฐมนตรีที่มีความเข้าใจในปัญหา ไม่มีอคติต่อภาคประชาชน ดำรงตำแหน่งในกระทรวงต่างๆ ทำงานร่วมกันกับภาคประชาชนเพื่อสร้างบรรยากาศความร่วมมือ อีกทั้ง พีมูฟ พร้อมมีส่วนร่วมในการดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้อง
นายจำนงค์ กล่าวว่า ก่อนการเลือกตั้ง พีมูฟได้เสนอนโยบายหลายอย่างให้พรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งบางพรรคก็รับ บางพรรคก็ไม่รับ วันนี้หลังเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เราจึงมาติดตามว่า ได้มีการบรรจุนโยบายของเราเข้าไปในนโยบายของพรรคก้าวไกลแค่ไหน และจะเป็นจริงได้มากน้อยแค่ไหน
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอบคุณพีมูฟ ตามที่แถลงว่าก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกลรับข้อเสนอเชิงนโยบายของพีมูฟมาเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกล ซึ่งได้สะท้อนผ่านการ MOU การจัดตั้งรัฐบาล และส่วนหนึ่งอยู่ใน 300 นโยบายที่เราวางไว้แล้ว วันนี้เมื่อประชาชนส่วนใหญ่แสดงเจตจำนงไปแล้วผ่านการเลือกตั้ง ก็ไม่อยากให้มีปัญหาการบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน เพราะการเลือกตั้งเป็นกระบวนการทางประชาธิปไตยที่สามารถหาข้อยุติจากความเห็นที่แตกต่างกันได้ด้วยสันติวิธีที่สุด
นายจำนงค์ กล่าวว่า วันนี้ประชาชนกำลังรอคอยรัฐบาลชุดใหม่มาแก้ไขปัญหาหลายๆ อย่างจากรัฐบาลชุดเดิมที่ผ่านมาโดยเฉพาะหลังรัฐประหารเป็นต้นมา ซึ่งมีปัญหากับประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนยากคนจน ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลก็พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อตั้งรัฐบาลต้องก้าวไกลให้เร็วที่สุดเพื่อผลักดันนโยบายหลายๆ อย่างเพื่อสร้างความเป็นธรรมมากขึ้น สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเดือดร้อน สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ทุกคนได้รับส่วนแบ่งความเจริญ อย่างเท่าเทียมเป็นธรรม