นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และอดีตผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ไอทีวี (itv) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ถ้าITVฟื้น..จะเกิดอะไรขึ้น..
#ไอทีวี
ผมรู้สึกกระอักกระอ่วนใจมากว่า16ปี ผมถูกไล่ออกอย่างไม่เป็นธรรมหลังจากไอทีวีถูกปิดโดยรากของ เผด็จการยึดอำนาจ ของ คมช.ปี2549และกลายไปเป็นTITV
พอย้ายไปทำช่อง11กับ”บุ๋ม”ปนัดดา ก็โดนรัฐบาลยุคนั้นไล่ออกอีก..
ชีวิตระหกระเหิน..เดินตามทางชีวิตจนมาถึงวันนี้..
วันนี้พออ่านบทความของน้องจตุรงค์ เพื่อนร่วมชะตากรรม”จอดำไอทีวี”แล้วมึนต่อ..
อดีต บก.ไอทีวีระบุ รู้ผลไอทีวีฟ้อง สปน.เดือน มิ.ย. สอดคล้องไทม์ไลน์การเมือง กังวลกระทบปมคดี 'พิธา'
3 มิ.ย. 66 จตุรงค์ สุขเอียด อดีตประธานสหภาพแรงงานหัวหน้างาน บริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) พิธีกรรายการถอดรหัสและบรรณาธิการข่าวเฉพาะกิจ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงกรณีคดีไอทีวีที่กำลังค้างอยู่บนศาลปกครองสูงสุด และคดีหุ้นสื่อ 'พิธา' ระบุว่า
ไอทีวียังเป็น-ทำสื่ออยู่ไหม? มีคนถามหลายคนว่า ตอนนี้สถานะของไอทีวียังทำสื่ออยู่ไหม ผมก็อยากรู้
เอาเป็นว่าผมขออธิบายจากที่ได้รับรู้เองมากับตัวครับ ไม่ว่าจะเป็นความบังเอิญหรือไม่ วันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ผมได้รับโทรศัพท์จากอดีตเพื่อนไอทีวี ที่รับรู้สถานะไอทีวีอยู่ เขาบอกว่า พี่จอยรู้ใช่ไหมว่า ไอทีวีชนะคดีกับสปน.และชนะคดีในศาลปกครองกลางแล้วตอนนี้คดีอยู่ในชั้นศาลปกครองสูงสุด อีกประมาณ2เดือน คือมิถุนายน (ก็หมายถึงเดือนนี้ ) จะมีคำวินิจฉัยมา คิดว่า น่าจะยืนพิพากษาตามอนุญาโตตุลาการและศาลปกครองกลาง....คือชนะ
ถามว่าแล้วยังไง? เขาอธิบายว่า ตอนนี้บริษัทยังไม่ได้ปิดเพราะรักษาสถานะในการสู้คดี มีเงินลงทุนเดิมอยู่ตั้งแต่ถูกปิดสถานีอยู่ แล้วมีอะไรเกี่ยวกับพี่ คือถ้าชนะคดีแล้ว คือไอทีวีก็จะได้สิทธิคืนมา
เผื่อสนใจรายการ
ผมถามว่า รายการหมายถึงมีรายการจะผลิตหรือจ้างไปผลิต เขาว่า ไอทีวี มีลิขสิทธิ์รายการที่เคยดังๆอยู่ในมือ ชื่อไอทีวี และรายการถอดรหัส ย้อนรอย ที่ไปจดเป็นทรัพย์สินทางปัญญาไว้ เลยบอกว่า สรุปคือมีแต่ยี่ห้อไอทีวีและชื่อรายการ ผมว่า ตอนนี้โลกของสื่อเปลี่ยนไป ไม่มีใครเอาทุนเยอะๆมาซื้อแต่ยี่ห้อไอทีวี มาผลิตรายการ หรอก
เขาไปเปิดยูทูบทำเอาเอง ง่ายและถูกกว่า แล้วถ้ามีคนอยากซื้อชื่อไอทีวีหรือรายการเช่นถอดรหัสไปทำ ถ้าไม่ใช่คนเดิมหรือสไตล์การนำเสนอมันไม่ใช่ ใครจะยอมมาดูทำไม เมื่อชนะคดีแล้ว มีเงินของผู้ถือหุ้นรายเล็กๆเดิมอยู่ แทนที่แบ่งเป็นเงินคืนไปคงได้กันคนละไม่กี่สลึง ถ้าเอามาสร้างเนื้อหาแบบเดิมในช่องทางใหม่ๆ ในชื่อไอทีวีหรือรายการของไอทีวี ชวนคนไอทีวีเก่าๆกลับมาช่วยกันทำ น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่า ขายลิขสิทธิ์ที่มีแต่ชื่อ เขาว่าน่าสนใจ....
ผมนำเรื่องนี้ไปบอกกับอดีตคนไอทีวีสองสามคน ว่า เดือนมิถุนาฯ ไอทีวีอาจรู้ผลชนะคดี สปน.เขาว่าน่าจะชนะ... มันเป็นข่าวที่ผมยอมรับว่า รู้สึกตื่นเต้น หากไอทีวีกลับมาทำข่าวไม่ว่าจะผ่านช่องปกติหรือออนไลน์ แต่คิดไม่ถึงว่า ไม่กี่วัน มีข่าวจากกกต.ช่วงที่กำลังหาเสียงเลือกตั้งว่า อีกสองวันจะมีข่าวใหญ่ให้ติดตาม ในฐานะนักข่าวก็อยากรู้ แต่ก็เงียบหายไป
จนก่อนลงคะแนนเลือกตั้งไม่กี่วัน ปรากฏมีคนไปร้อง กกต.ว่านายพิธา ถือหุ้นไอทีวี นักข่าวก็ถามกกต. ว่านายพิธา จะขาดคุณสมบัติหรือไม่ กกต.ก็ตอบว่า ไม่เร่งรัด แล้วก็ผ่านเลือกตั้งมา ผมข้องใจ...ในบทบาทปัจจุบันไอทีวี จึงถามเพิ่มเติมภายหลังว่า หลังจากจอดำไปเมื่อปี2550แล้ว ยังทำสื่อกันอยู่ไหม... เขาว่า ไอทีวี ไม่มีทีมผลิตสื่อของตัวเองนานแล้ว ตั้งแต่จอดำ แต่มีการลงทุนด้านอื่นตามข่าว....
แล้วหุ้นไอทีวี มีการซื้อขายกันได้อยู่ไหม เขาว่าหุ้นไอทีวีถูกถอดจากตลาดหลักทรัพย์แล้วเมื่อปี2557
แต่หุ้นไปอยู่ที่ศูนย์รับฝาก บังเอิญอะไร ไม่รู้พี่ก่อนจะมีคนไปร้องเรียนเรื่องหุ้นคุณพิธา มีคนหนึ่งไปซื้อหุ้นกันแล้วเปลี่ยนชื่อผู้ถือ ผมไม่เข้าใจเรื่องการขายหุ้นนอกตลาดแต่เขาว่าก็ทำได้เหมือนในตลาด มีการซื้อกันแล้วเปลี่ยนผู้ถือได้ แปลกนะผมว่า มันไม่มีราคา แล้วนิ่งมานานทำไมมาซื้อกัน
แล้วตอนนี้ ไอทีวี มีแผนทำสื่อไหม เขาว่า ไอทีวี ยังไม่มีทีมผลิตคอนเท้นต์ของตัวเอง แต่ยังมีวัตถุประสงค์ตามจดแจ้งอยู่สามารถจัดหารายการได้ ถ้าจำไม่ผิด คาดว่า เดือนนี้ คงรู้ผลจากศาลปกครองสูงสุด ถึงสถานะของไอทีวีว่าจะชนะคดีตามคาดหรือไม่ นี่คือสิ่งที่ไม่เฉพาะแต่เจ้าของ นักลงทุนรายเล็ก รายย่อย จนถึงอดีตพนักงานอย่างเรารอคอยมาแสนนาน
แต่ใครจะคิดว่า มันจะบังเอิญอะไรกับไทม์ไลน์ทางการเมืองพอดิบพอดีขนาดนี้ ไอทีวี เกิดจากผลพวงเหตุการณ์นองเลือดพฤษภา 35 เปลี่ยนมือจากนักลงทุนหลายรายมาสู่เครือชินฯ จอดำจากเหตุการณ์รัฐประหารปี 49 และตอนนี้คงกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออำนาจทางการเมืองปี66
ถึงตอนนี้ ในใจอยากให้ไอทีวีหลับไปตลอดกาลเลยครับ อย่าตื่นขึ้นมาสร้างความวุ่นวายใดๆในบ้านเมืองนี้อีกไม่ต้องห่วงคนไอทีวีหรอกนะ ทุกคนปลอดภัยดี