นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจสารวัตรปศุสัตว์ไซเบอร์ (DCU) เข้าตรวจสอบการเคลื่อนย้ายสินค้าปศุสัตว์ในพื้นที่เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ตามที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีการโฆษณาขายเนื้อสัตว์ทางออนไลน์ ในแอปพลิเคชัน TikTok และเฟซบุ๊ก
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ามีการโฆษณาจูงใจขายเนื้อสัตว์นำเข้าราคาถูกเพียง 100 บาทต้นๆ เหมาะสำหรับใช้ในร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว และร้านอาหารบุฟเฟต์ที่ราคาต่อหัวไม่แพง เจ้าหน้าที่สงสัยว่าเนื้อสัตว์นำเข้าตามโฆษณานั้น เป็นเนื้อสัตว์เถื่อน จึงบุกเข้าตรวจสอบห้องเย็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดพสุธานาวี เขตจตุจักร พบการจัดเก็บเนื้อตัดแต่งและชิ้นส่วนเครื่องในกระบือ โค และสุกร ดังนี้ ซากกระบือ (เนื้อตัดแต่ง) ที่ต้นทางจากประเทศอินเดีย 145.64 กิโลกรัม ซากโค (เนื้อตัดแต่ง) ไม่ทราบแหล่งที่มา 15.5 กิโลกรัม และ ซากสุกร (เนื้อตัดแต่งและเครื่องใน) ไม่ทราบแหล่งที่มา 300 กิโลกรัม
เจ้าหน้าที่จึงอายัดซากสัตว์ทั้งหมดไว้ที่ห้องเย็นดังกล่าว แล้วแจ้งให้เจ้าของสินค้านำเอกสารการนำเข้าซากสัตว์ เอกสารการเคลื่อนย้ายซากสัตว์ เอกสารรับรองสุขศาสตร์ซากสัตว์ และเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดงที่กองสารวัตรและกักกัน กรมปศุสัตว์ภายใน 7 วันทำการ โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจพหลโยธิน หากไม่สามารถนำเอกสารดังกล่าวมาแสดงได้ จะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ดังนี้
พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 มาตรา 31 วรรค 1 เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด ผู้ใดนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ ต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดี หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายทุกครั้งที่นำเข้า ส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักร มีโทษตามมาตรา 68 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 มาตรา 22 เมื่อได้ประกาศกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราว หรือประกาศกำหนดเขตโรคระบาด หรือเขตเฝ้าระวังโรคระบาดห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ตามที่กำหนดในประกาศดังกล่าว เข้า ออก ผ่าน หรือภายในเขตนั้น เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบประจำเขตนั้นทุกครั้งที่มีการเคลื่อนย้าย มีโทษตามมาตรา 65 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์เฝ้าระวังและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างเข้มงวด พร้อมกับตรวจสอบห้องเย็นทั่วประเทศ เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์อย่างจริงจัง โดยปัญหาดังกล่าวถือว่าได้สร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ของไทยทั้งระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรรายย่อย รวมถึงอาจก่อให้เกิดการแพร่ของโรคระบาดสัตว์ ตลอดจนทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงที่จะบริโภคสินค้าปศุสัตว์ที่ไม่มีคุณภาพและมาตรฐาน
ดังนั้น กรมปศุสัตว์จึงเร่งแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดก็จะพิจารณาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์พร้อมหน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบ รายงานและดำเนินการลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวด