นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีแอม ไซยาไนด์ พร้อมด้วยนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา เปิดเผยภายหลังร่วมรับฟังการพิจารณาไต่สวนมูลฟ้องคดีที่นางสรารัตน์ หรือ แอม มอบอำนาจให้ทนายธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ยื่นฟ้องนายรพี ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
ทนายเดชา กล่าวว่า วันนี้มีการไต่สวนมูลฟ้อง โดยมีทนายธันย์นิชาเป็นพยานเบิกความจํานวน 1 ปาก พร้อมกับมีเอกสารและเปิดคลิปรายการทีวีชื่อดัง โดยศาลมีคําสั่งเลื่อนสืบพยานออกไปเป็นวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 เวลา 13.30 น. เบื้องต้นทราบว่าจะมีการเบิกตัวแอมและแม่ของแอมเข้ามาเป็นพยานในนัดต่อไป เนื่องจากทนายอ้างว่าเป็นผู้เสียหาย
นายรพี กล่าวว่า ตนตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกทนายเดชาและได้ยินมาว่าทนายธันย์นิชา บอกว่าไม่เคยถูกออกหมายเรียกจากกองบังคับการปราบปราม ในกรณีของการทําลายพยานหลักฐาน ส่วนภาพต่างๆ ที่สื่อนําเสนอ ซึ่งเป็นภาพที่ทนายธันย์นิชาเดินออกจากกองปราบฯนั้น เค้าบอกว่าจําไม่ได้ว่าเป็นหน้าใครและเค้าไม่ใช่คนที่ถ่ายรูปเองจึงไม่ยืนยันว่าเป็นหน้าตัวเอง ซึ่งทนายเดชาได้สอบถามว่าได้ติดตามหรือดูข่าวตามที่สื่อนําเสนอบ้างหรือไม่ เค้าอ้างว่าที่บ้านไม่ได้ดูทีวีช่อง3-5-7-9 และวันนี้ตนรู้แจ้งแล้วว่าการฟ้องในคดีหมิ่นประมาทครั้งนี้เป็นเพราะกลัวจะเกิดสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้นั้นเอง
ด้านทนายธันย์นิชา กล่าวถึงสาเหตุที่ศาลไม่อนุญาตให้เบิกตัวแอม ร่วมในการไต่สวนครั้งนี้ว่า ศาลเกรงจะกลับลําบากเพราะมีระเบียบของกรมราชทัณฑ์อยู่ ซึ่งการเบิกตัวแอมในครั้งถัดไปได้แถลงต่อศาลแล้ว ไม่จําเป็นต้องเขียนคําร้องเพราะศาลอนุญาตแล้ว ทนายธันย์นิชา ระบุด้วยว่า คดีนี้เป็นคดีอาญา ซึ่งโจทก์คือแอม เป็นผู้ฟ้องหรือเรียกว่าราษฎรฟ้องเองต่อศาล จึงต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องก่อน ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับทนายเดชา ท่านเป็นคนน่ารักและเคารพท่านอยู่ แต่ต่างคนต่างทําหน้าที่ของตนเองก็เท่านั้น ซึ่งยืนยันตนเคารพการตัดสินของศาลอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่นายรพี กล่าวว่าจะฟ้องกลับนั้น ทนายธันย์นิชา กล่าวว่า ฟ้องได้เลยเพราะตนใช้สิทธิสุจริต ถ้ามีการฟ้องกลับก็จะเป็นการฟ้องเท็จอีกเช่นกัน พร้อมยืนยันด้วยว่าคดีนี้ แอม เป็นผู้ที่เดินทางมาฟ้องศาลด้วยตัวเองและจ่ายเงินเอง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้