นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย กำหนดอาหารไทยเป็น Soft Power ที่สำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับภาคเอกชน จัดงานมหกรรมอาหาร "Amazing Thai Taste Festival" ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง เชียงใหม่ และอุดรธานี ช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2566 ประชาชนเข้าร่วมงานฟรี พร้อมเชื่อมั่นว่าจะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ไม่น้อยกว่า 40,000 คน สร้างรายได้หมุนเวียนภายในประเทศได้ถึง 50 ล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าววว่า งานมหกรรมอาหาร Amazing Thai Taste Festival จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมไปถึงกลุ่มที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Food Lover) ให้ความสนใจต่อเนื่องและเข้าร่วมเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปีนี้ ททท. นำเสนองานภายใต้แนวคิด "Food Lover Paradise สวรรค์ของนักกินในดินแดนที่เต็มไปด้วยของอร่อย" ซึ่งมีกำหนดจัดงานใน 3 จังหวัด ดังนี้
- จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 3 – 5 มิถุนายน 2566 เวลา 16.00 – 23.00 น. ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง
- จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 28 – 30 กรกฎาคม 2566 เวลา 16.00 – 23.00 น. ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่
- จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 25 – 27 สิงหาคม 2566 เวลา 16.00 – 23.00 น. ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุดรธานี
ทั้งนี้ ภายในงานจะรวบรวมร้านอาหารอร่อยจากทั่วประเทศ กิจกรรมสาธิตการสอนทำอาหารโดยเชฟที่มีชื่อเสียง เชฟชุมชน และเชฟรุ่นใหม่ ซึ่งจะใช้แหล่งวัตถุดิบจากพื้นที่แหล่งธรรมชาติต้นกำเนิดของอาหารตามภูมิภาคต่างๆ ที่มีความหลากหลาย โดยมีทั้งร้านอาหารประจำท้องถิ่น อาหารเพื่อสุขภาพ สตรีทฟู้ด ไปจนถึงระดับมิชลินสตาร์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสอาหารไทยและอาหารท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ รวมไปถึงการจัดงานเสวนาและพูดคุยด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารจากกูรูด้านอาหารในท้องถิ่น นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวต้นกำเนิดแห่งวัตถุดิบใน 3 จังหวัดที่จัดงานและจังหวัดใกล้เคียง พร้อมทั้งความบันเทิงด้วยการจัดคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย ซึ่งประชาชนที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage : Amazing Thai Taste Festival หรือ TAT Contact Center โทร. 1672
นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรี ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กำหนดแนวทางส่งเสริมอาหารไทยให้เป็นที่นิยมต่อเนื่อง งานดังกล่าวจะช่วยสร้างการรับรู้ถึงอาหารไทย 1 ใน Soft Power ที่สำคัญ ย้ำถึงเอกลักษณ์ประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์และหลากหลายทางวัฒนธรรมอาหาร สามารถต่อยอดสู่การเดินทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า อาหารไทยมีศักยภาพและความโดดเด่นที่สามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ทั้งในเชิงวัฒนธรรมและเชิงการตลาด ยกระดับ เสริมคุณค่าสู่สากลได้อีกด้วย