นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะรัฐมนตรีรับทราบความคืบหน้าแผนแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จากผลประกอบการปัจจุบัน ไตรมาส 1/2566 มีรายได้ 32,106 ล้านบาท อัตราบรรทุกผู้โดยสารของสายการบินไทย เฉลี่ยร้อยละ 84 ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารรวม 2.19 ล้านคน ไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ ร้อยละ 79.7 ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสาร 1.33 ล้านคน ปัจจุบันสถานะเงินสดคงเหลือ ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 จำนวน 45,988 ล้านบาท เมื่อได้ปฏิรูปธุรกิจ ลดต้นทุนดำเนินงานและเพิ่มรายได้ 64,400 ล้านบาทต่อปี สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนด 58,000 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ การบินไทย ยอมรับว่า ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดทุนสะสมของไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ ตั้งแต่ ปี 2556 จำนวน 20,012 ล้านบาท สัดส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ 18,166 ล้านบาท การบินไทย จึงทยอยรับโอนคืนเครื่องบิน แอร์บัส 320-จากการเช่าบริการ 20 ลำ การรับโอนบุคลากร ไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ เข้าเป็นพนักงานของการบินไทย โดยพนักงานของไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ ไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องโครงสร้างค่าตอบแทน สภาพการจ้าง และอายุงาน การบินไทย ยังได้ปรับโครงสร้างทุน การแปลงหนี้เป็นทุนและการจัดสรรเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยการแปลงหนี้เงินต้นเดิมตามแผนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 4,911 ล้านหุ้น ในราคา2.5452 บาทต่อหุ้น
สำหรับการแปลงหนี้เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อชำระหนี้เงินต้นคงค้างของเจ้าหนี้ กระทรวงการคลัง ในสัดส่วนร้อยละ100 ของภาระหนี้เงินต้นคงค้าง ประมาณ 12,827 ล้านบาท จำนวน 5,040 ล้านหุ้น ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น คณะรัฐมนตรีจึงขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาใช้สิทธิเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของการบินไทย เพื่อให้สามารถออกจาก แผนฟื้นฟูกิจการได้เร็วขึ้น เพื่อคงสถานะเป็นสายการบินแห่งชาติ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นต่อไป
ส่วนการแปลงหนี้เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน กลุ่มที่ 5 หรือเจ้าหนี้สถาบันการเงินที่มีสิทธิตามสัญญาโอนสิทธิในการได้รับเงินจากการขายอากาศยาน) เจ้าหนี้ กลุ่มที่ 6 (เจ้าหนี้สถาบันการเงินไม่มีประกัน) และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18-31 (เจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้) ในสัดส่วนร้อยละ 24.50 ของภาระหนี้เงินต้นคงค้าง ยอดรวม 25,000 ล้านบาท จำนวน 9,822 ล้านหุ้น ในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น การบินไทย เตรียมแปลงหนี้เป็นทุนและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน PPO ในช่วงไตรมาส 2 ปี2567 ทำให้มีส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 28,685 ล้านบาท เพื่อให้สามารถกลับไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 4 ปี 2567
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังขอให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงาน การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เร่งพิจารณาอนุญาตให้บริษัท การบินไทย รับอากาศยานที่จัดหา ตามแผนฟื้นฟูกิจการ เข้ามาประจำการในฝูงบินไม่ล่าช้า หลังจากการบินไทย และ ไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ ยื่อขอใช้เครื่องบิน ทำการบินรวม 64 ลำ โดยการบินไทยได้ขออนุญาตจัดหาอากาศยานเพิ่มเติมโดยเช่าให้บริการ 13 ลำ และมีอากาศยาน อยู่ระหว่างจัดหาตามแผนการจัดหาอากาศยานปี 2567-2568 อีกจำนวน 9 ลำ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีพอใจ การแก้ปัญหา บริษัท การบินไทย คืบหน้าในระดับหนึ่ง จึงขอให้เร่งรัดแก้ปัญหาให้เร็วขึ้นเพื่อให้ได้กลับคืนสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งฝากดูแลเจ้าหน้าที่พนักงานของ การบินไทย และ ไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ ให้ได้รับความเป็นธรรมและสามารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมั่นใจ