นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า พิธีกรรม ศาลเจ้า กกต.
การเลือกตั้งเป็นหัวใจของทุกประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตย
เลือกคนมาปกครองบ้านเมือง เป็นรัฐบาล คือ เลือกเขามาปกครองเราเอง
แต่กลับมีทั้งเอานักเลง เจ้าพ่อ ผู้มีอิทธิพล คนทำพนันออนไลน์ มาเฟียสีเทาสารพัด มาเป็น ส.ส.
แล้วตั้งก๊วนไปต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี หากินสะสมทุนกลับมาโกงเลือกตั้ง นับวันยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
การเลือกตั้งของไทยจึงเป็นเพียง “พิธีกรรม” ล้วนๆ
ใครจ่ายเงินได้ตรงเป้ามากกว่า ก็ได้เป็น ส.ส.
ส่วนองค์กรกลางอย่าง กกต. ทำตัวเป็นได้แค่ “ศาลเจ้า” ดูน่าเกรงขาม เป็นที่นับถือของคนจิตอ่อน
แต่ช่วยอะไรชาวบ้านที่มากราบไหว้เซ่นเจ้าไม่ได้เลย
เป็นเพียงสัญลักษณ์ตั้งไว้ให้คนได้เห็นว่ามี
ทุกวันนี้ผมรับเรื่องร้องเรียนสารพัดจากชาวบ้าน เรื่องจ้างมาฟังประชุม ฟังปราศรัย หัวละ 100 - 300 บาท
ไปจนถึงการเก็บบัตรประชาชน ได้มัดจำ 500 บาท และรอวันเลือกตั้งเอาบัตรประชาชนคืนไปลงคะแนน แล้วได้ส่วนที่เหลือ
ตอนนี้ให้ อสม. เดินจดรายชื่อ เบอร์โทร ไปจนถึง ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ แอบช่วยหาเสียง บางที่เดินกันตรงๆ ไม่ต้องเกรงใจใคร
แล้วยังลูกเล่นลูกล่ออื่นๆ อีกสารพัดสารเพ ทำได้ทุกอย่างเพื่อขึ้นมาเป็น “ผู้ปกครอง” พวกเรา
แต่ผมเป็น “เจ้าไม่มีศาล” หามีอำนาจใด เป็นเพียงประชาชนที่รู้ทันสัมภเวสีการเมืองเท่านั้นเอง
การเลือกตั้งทั่วไป 4 ปีมีครั้ง กกต. ที่ว่างงานมา 3 ปี 10 เดือน ยุ่งแค่ช่วงเลือกตั้ง 2 เดือนนี้ ต้องจัดเตรียมการสอบสวนภายในด่วน 24 ชั่วโมง
เพราะงานสบาย นั่งจนเมื่อยก้นมานานแล้ว แถมขยันไปดูงานเลือกตั้งต่างประเทศ
ก็ไม่รู้ว่าประเทศไหนเลือกตั้งแล้วทำแบบไทย จ่ายเงินซื้อเสียงไหม ช่วยบอกที?
กกต. สมควรตั้ง “ค่าหัว“ หรือรางวัลให้ชาวบ้านผู้แจ้งข้อมูล
มีการปกป้องพยาน เพราะบรรดาผู้สมัคร และเครือข่าย ล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลทั้งสิ้น
ทั้งที่ กกต. มีทุกจังหวัด แต่เหมือน “ศาลแม่นาคพระโขนง” มากกว่า ตำนานดูน่ากลัว แต่ปิดหูปิดตาหาไม่เจอ
เพราะระบบเลือกตั้งกลายเป็นเพียง “พิธีกรรม” ของระบอบประชาธิปไตยที่ชำรุดทรุดโทรมของไทยเท่านั้น
จะเลือกกี่ครั้ง ลีลาก็เหมือนเดิม นักการเมือง พาเหรดจ่ายเงินซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าไปยันคืนหมาหอน ที่ กกต. ได้แต่นอนฟังเสียงหอนจนหลับคาเตียง
เมื่อได้เป็นรัฐบาล ก็โกหกเอาตัวรอดไปวันๆ
ใช้พิธีกรรม “ลักหลับ” เอาวิธีพิเรนทร์มาใช้
เช่น กัญชา แม้เป็นเรื่องสำคัญส่งผลกระทบต่อสังคมและเยาวชนสูง แต่ยังดำน้ำเอามาใช้กับสังคม ทั้งที่ไม่ผ่านสภาออกมาเป็นกฎหมาย
นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โยนความผิดโบ้ยให้สภาว่า ไม่ผ่านกฎหมายมาให้เอง เลยไม่มีกฎหมายควบคุม
ก็พรรคการเมืองอื่นไม่เห็นด้วย จะให้ผ่านออกมาเป็นกฎหมายได้อย่างไร?
ทำตัวเหมือนเด็กรวยมีปัญหา ใครขัดใจไม่ได้ จะเอาซะอย่าง
“ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา”
ดังนั้น สมัยหน้าใครเอาพรรคภูมิใจไทยไปร่วมรัฐบาลด้วย ก็เหมือนไปสนับสนุนกัญชาที่เปิดเสรีอยู่อย่างทุกวันนี้
โถ.. ดันมาจบที่เรื่องกัญชาอีก
เวรกรรมของอนุทินที่ปากไม่มีหูรูด นับวันยิ่งผลักมิตรไปเป็นศัตรู
เตรียมตัวใช้กรรมไปเป็น “ผู้นำฝ่ายค้าน” ในสภา 4 ปีข้างหน้าก็แล้วกัน