ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 10 และอาจเป็นครั้งสุดท้ายในการประชุมวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐฯ แม้ว่ามีสัญญาณมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัว
นักวิเคราะห์และนักลงทุนคาดว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 จากนั้นจะคงดอกเบี้ยสูงไว้ต่อไปเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อให้ได้ตามเป้าหมายระยะยาวที่ร้อยละ 2 โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารแบงก์ออฟอเมริกาแจ้งลูกค้าเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ธนาคารคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 ในสัปดาห์หน้า และส่งสัญญาณระงับการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน
ด้านซีเอ็มอี กรุ๊ป (CME Group) ซึ่งเป็นตลาดอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเผยว่า ผู้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือฟิวเจอร์ส เทรดเดอร์มากกว่าร้อยละ 80 คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด หรือ เอฟโอเอ็มซี (FOMC) จะประชุมในวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่แตกต่างอย่างมากจากการประชุมครั้งหลังสุดในเดือนมีนาคม ที่เกิดวิกฤตภาคการธนาคารหลังจากธนาคารในสหรัฐฯ ต้องปิดกิจการหลายแห่ง ครั้งนั้นเฟดขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อยในปลายปีนี้
หากที่ประชุมตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ก็จะเป็นการขึ้นครั้งที่ 10 ติดต่อกัน และทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 5.00-5.25 สูงที่สุดนับจากปี 2550 ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อไม่กี่วันก่อนระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรกของปีนี้ชะลอการขยายตัวลงเหลือร้อยละ 1.1 ต่อปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมอยู่ที่ร้อยละ 4.2 ต่อปี ลดลงจากร้อยละ 5.1 ในเดือนกุมภาพันธ์