กรุงเทพโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นกลุ่มแรงงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 643 คน ในพื้นที่ 11 เขต จากทั้งหมด 50 เขต ได้แก่ จตุจักร ดอนเมือง ดุสิต บางเขน บางกะปิ บางซื่อ ภาษีเจริญ มีนบุรี สายไหม หนองแขม หลักสี่ และปริมณฑล 2 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี และปทุมธานี เรื่อง "ความหวังของแรงงานไทยในวันแรงงานแห่งชาติ" พบว่า
เมื่อถามว่าชีวิตความเป็นอยู่ในวันนี้เป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 พบว่า กลุ่มตัวอย่างแรงงานร้อยละ 41.4 มีชีวิตความเป็นอยู่เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนร้อยละ 30.9 มีชีวิตความเป็นอยู่แย่ลง ขณะที่ร้อยละ 27.7 มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อถามว่ายังต้องเจอผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 71.9 ยังเจอผลกระทบ โดยในจำนวนนี้ ร้อยละ 44.5 รายได้ต่อวันลดลงจากเดิม รองลงมา ร้อยละ 31.3 ต้องทำงานเยอะขึ้น งานหนักขึ้น และร้อยละ 24.0 ไม่มี OT เงินโบนัส ขณะที่ร้อยละ 28.1 ไม่เจอกับผลกระทบ
เมื่อถามว่า ในปัจจุบันรายรับจากค่าจ้างแรงงานกับรายจ่ายเป็นอย่างไร พบว่าแรงงานร้อยละ 45.7 มีรายรับพอดีกับค่าใช้จ่าย จึงไม่มีเงินเหลือเพื่อเก็บออม ขณะที่ร้อยละ 38.6 มีรายรับไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ต้องกู้ ต้องหยิบยืม ส่วนที่เหลือร้อยละ 15.7 มีรายรับเพียงพอกับค่าใช้จ่ายและมีเงินเก็บออม
สิ่งที่อยากขอให้กับแรงงานในวันแรงงานแห่งชาติปีนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 73.9 อยากให้ควบคุมราคาสินค้าอุปโภค บริโภคพื้นฐานไม่ให้ขึ้นราคา กระทบค่าครองชีพ รองลงมา คือ อยากให้เร่งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคิดเป็นร้อยละ 72.2 และอยากให้มีสวัสดิการ โบนัส แก่แรงงานในทุกๆ ปี คิดเป็นร้อยละ 52.7
สุดท้าย เมื่อถามว่าอยากให้มีการพัฒนาทักษะในด้านใดเพื่อเพิ่มศักยภาพต่อการเข้าสู่ตลาดแรงงานสากล พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 63.6 อยากให้พัฒนาทักษะในการปรับตัวและเปิดรับในการเรียนรู้สิ่งใหม่ รองลงมา คือ ทักษะทางภาษา คิดเป็นร้อยละ 44.6 และทักษะในการสื่อสารทางการตลาด คิดเป็นร้อยละ 27.1