น.ส.โศรยา ฤทธิอร่าม ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง เปิดเผยอาการของ แอม ไซยาไนด์ หลังถูกควบคุมตัวในเรือนจำ เป็นวันที่สอง ว่า วันนี้ (28 เม.ย.) แอม สามารถปรับตัวเข้ากับเรือนจำได้ดีขึ้นกว่าวันแรกที่เข้ามา และสามารถอยู่ร่วมกับผู้ต้องขังอื่นในห้องกักโรคได้ โดยทางทีมสหวิชาชีพและนักจิตวิทยาของเรือนจำ สังเกตว่าแอมมีการพูดคุยกับผู้ต้องขังรายอื่น ทำให้ความเครียดลดน้อยลง แม้จะยังมีความวิตกกังวลอยู่เล็กน้อย แต่ไม่เหมือนวันแรกที่เครียดจนความดันขึ้นสูง จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก่อนจะส่งตัวกลับมาอยู่ที่ห้องกักโรคตามเดิม ซึ่งต้องควบคุมเฝ้าระวังอาการให้ครบ 5 วัน เพื่อป้องกันโรคโควิดในเรือนจำ เมื่อครบกำหนดจะไปย้ายไปอยู่ที่ห้องบับเบิลโซนอีก 5 วัน ก่อนย้ายเข้าสู่แดนแรกรับตามปกติ
นอกจากนั้น ยังได้สูตินารีแพทย์เข้ามาดูแลและตรวจครรภ์ของแอม โดยตรวจสัญญาณชีพของเด็ก พบว่า อาการและสัญญาณชีพปกติ ไม่มีความน่ากังวลใดๆ ส่วนประเด็นเรื่องอาการทางจิตของแอมนั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอให้แพทย์เป็นผู้สรุปข้อมูลอย่างละเอียด
ทั้งนี้ ระหว่างที่แอมอยู่ในห้องกักโรค ไม่มีญาติติดต่อขอเข้าเยี่ยมแต่อย่างใด มีเพียง น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความ ที่ติดต่อเข้ามาเยี่ยมเพียงคนเดียวเท่านั้น
นอกจากนั้น ยังได้สูตินารีแพทย์เข้ามาดูแลและตรวจครรภ์ของแอม โดยตรวจสัญญาณชีพของเด็ก พบว่า อาการและสัญญาณชีพปกติ ไม่มีความน่ากังวลใดๆ ส่วนประเด็นเรื่องอาการทางจิตของแอมนั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอให้แพทย์เป็นผู้สรุปข้อมูลอย่างละเอียด
ทั้งนี้ ระหว่างที่แอมอยู่ในห้องกักโรค ไม่มีญาติติดต่อขอเข้าเยี่ยมแต่อย่างใด มีเพียง น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความ ที่ติดต่อเข้ามาเยี่ยมเพียงคนเดียวเท่านั้น