น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยกำหนดให้เซ็กซ์ ทอย (Sex Toy) หรืออุปกรณ์เพิ่มความสุขทางเพศ เป็นสินค้าต้องห้าม เป็นสิ่งที่ถูกมองว่าเข้าข่ายลามกอนาจาร เป็นอันตรายต่อสังคมและศีลธรรม รวมถึงถูกตีความเป็นวัตถุผิดกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 และถูกจัดให้เป็นวัตถุที่เป็นของต้องห้ามตามความหมายในพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 แต่เนื่องจาก ยังมีผู้ที่ต้องการสินค้าดังกล่าว จึงเกิดการลับลอบซื้อขายสินค้าชนิดนี้ ซึ่งไม่เพียงทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีสินค้า แต่ยังนำไปสู่ปัญหาการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่ฉวยโอกาสเรียกรับสินบน อีกทั้งทำให้ไม่สามารถควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าดังกล่าว โดยเซ็กซ์ทอยที่มีจำหน่ายกันอยู่นั้นไม่มีความปลอดภัย เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร หรือผู้ใช้เกิดการติดเชื้อ
น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า ที่จริง เซ็กซ์ทอยเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่อนคลายอารมณ์ ลดความเครียด หรือใช้ในการกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ผู้ที่มีปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ รวมถึงเป็นสิ่งที่ช่วยลดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้เช่นกัน โดยเซ็กซ์ทอยมีรูปร่างแตกต่างกันไปตามวิธีการใช้งาน อาทิ ไวเบรเตอร์ ตุ๊กตายาง ดิลโด นอกจากนี้ เซ็กซ์ทอยยังมีประโยชน์ด้านสังคม เพราะสินค้าประเภทนี้จะสามารถลดการค้าบริการ และปัญหาการหย่าร้างจากความต้องการทางเพศที่ไม่สมดุล ที่สำคัญจะมีส่วนช่วยลดอัตราการก่ออาชญากรรมทางเพศ โดยในประเทศไทย สถิติคดีการล่วงละเมิดทางเพศและคดีอาชญากรรมทางเพศ เฉลี่ย 5 ปี ของคดีข่มขืนเฉพาะที่มีการแจ้งความ เกิดคดีข่มขืนปีละประมาณ 4,000 คดี จับคนร้ายได้ 2,400 คดี แต่เมื่อมีการทำวิจัย กลับได้ข้อสรุปว่า มีคดีข่มขืนที่ไม่ได้แจ้งความประมาณร้อยละ 87 ซึ่งหมายความว่า 1 ปี อาจมีการก่อคดีข่มขืนในไทยมากถึง 30,000 คดี
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ในแง่เศรษฐกิจ จากรายงานของบริษัทวิจัย เทคนาวิโอ ของประเทศอังกฤษ ได้คาดการณ์การเติบโตของตลาดเซ็กซ์ทอย ช่วงปี 2562-2566 ว่าจะเติบโตต่อเนื่องปีละ 7 เปอร์เซ็นต์ สร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 3 แสนกว่าล้านบาท โดยประเทศอินเดียและจีนเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด ขณะเดียวกัน มีหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก ที่จัดให้เซ็กซ์ทอยเป็นสินค้าถูกกฎหมาย ประชาชนสามารถครอบครอง มีไว้จำหน่ายได้ รวมถึงมีเซ็กซ์ช็อปที่จำหน่ายสินค้าอย่างเปิดเผย และสร้างรายได้จำนวนมาก สำหรับประเทศไทยยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าควรปลดล็อกให้เซ็กซ์ทอยเป็นสินค้าถูกกฎหมายหรือไม่ แม้มีฝ่ายที่สนับสนุน แต่ก็มีอีกฝ่ายที่โต้แย้งหรือห่วงกังวลด้วยเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนา หรือเกรงว่าอาจส่งผลกระทบกับศีลธรรมและวัฒนธรรมของไทย
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์มีข้อเสนอและจุดยืนในเรื่องดังกล่าว โดยเราสนับสนุนให้มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมเซ็กซ์ทอย โดยมีหน่วยงานรัฐ อย่างเช่น คณะกรรมการองค์การอาหารและยา (อย.) และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ควบคุม ตรวจสอบ และให้การรับรองคุณภาพของสินค้า เพื่อความปลอดภัยต่อตัวผู้ใช้ นอกจากนี้ ต้องแยกสินค้าเซ็กซ์ทอยออกจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 แล้วกำหนดเป็นสินค้าควบคุมพิเศษภายใต้การกำกับของหน่วยงานของรัฐ และต้องกำหนดหลักเกณฑ์ผู้ซื้อเซ็กซ์ทอยต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี