นายแพทย์พิชญ์ อุปพงศ์ อาจารย์หน่วยกระจกตา และการแก้ไขสายตา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงการเล่นนํ้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ว่า ดวงตาเป็นอวัยวะที่บอบบางอย่างมาก และยิ่งมีความเสี่ยงจะได้รับอันตรายเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางตามากขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ต้องสัมผัสกับน้ำที่อาจไม่สะอาด ทำให้เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส เข้าสู่ดวงตาได้โดยง่าย ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้หากเข้าตาจะทำให้เกิดการติดเชื้อของเปลือกตา เยื่อบุตา และกระจกตา ทำให้มีอาการตาแดง ตามัว และอาจรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้
ดังนั้น หากสงกรานต์นี้ต้องเล่นน้ำหรือมีโอกาสโดนน้ำสาด ควรปกป้องดวงตาให้ปลอดภัย โดยการสวมแว่นก๊อกเกิ้ล (ลักษณะเป็นพลาสติกสีสันสดใสสวมทับครอบทั้งด้านหน้าและด้านข้าง) หรือแว่นกันแดด แว่นสายตา เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ที่อาจกระแทก ทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นลูกตาแตกได้ และควรหลีกเลี่ยงการใส่คอนแทคเลนส์เล่นน้ำ เนื่องจากหากมีสิ่งสกปรกเข้าตาจะทำให้ติดค้างบริเวณตาได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดการติดเชื้อของเยื่อบุตาหรือแผลที่กระจกตาตามมา
นายแพทย์พิชญ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเล่นน้ำสงกรานต์เพื่อให้ปลอดภัยต่อดวงตาทั้งตัวเองและคนรอบข้าง ควรใช้น้ำประปา หรือน้ำที่สะอาดมาเล่นน้ำ หลีกเลี่ยงการนำสิ่งปนเปื้อนมาผสมในน้ำ เช่น แป้งดินสอพอง สีผสมสารเคมีต่างๆ รวมทั้งน้ำแข็ง ซึ่งอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ด้วย รวมถึงเกล็ดน้ำแข็งชิ้นเล็กๆ ยังสามารถทำให้เกิดรอยถลอกที่กระจกตา นำไปสู่อาการไม่สบายตา เจ็บตา ตาแดง และอาจทำให้ตาแพ้แสง เป็นต้น
สำหรับวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าดวงตา อันดับแรก ตั้งสติ ไม่ควรขยี้ตา เนื่องจากอาจทำให้เกิดรอยถลอกที่กระจกตา ควรล้างตาด้วยน้ำดื่มที่สะอาด หรือลืมตาในน้ำสะอาดและกลอกตาในน้ำไปมา เพื่อให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออก หากมีอาการผิดปกติ เช่น แสบตา ตาแดง มีขี้ตา น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ ตามัวลง ควรพบจักษุแพทย์ใกล้บ้าน ไม่ควรซื้อยาหยอดเอง เพราะมีบางภาวะที่อาจทำให้ตาบอดได้หากรักษาล่าช้า