นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการหาเสียงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองบนเวทีปราศรัย เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ สามารถเอ่ยชื่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีบนเวทีปราศรัยได้หรือไม่ ว่า การหาเสียงนั้น การพูดเรื่องความจริงหรือข้อเท็จจริงสามารถทำได้ และเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่อย่าพูดจาใส่ร้ายด้วยความเท็จ แต่คนที่มีตำแหน่งหน้าที่จะต้องระมัดระวังนั้น แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ คณะรัฐมนตรี จะต้องไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 กำหนด และ ข้าราชการ อย่าใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการเป็นคุณเป็นโทษต่อผู้สมัครหรือพรรคการเมือง
ทั้งนี้ บางครั้งต้องแยกการใช้ตำแหน่งหน้าที่ กับความไม่เป็นกลางทางการเมือง เพราะความไม่เป็นกลางทางการเมืองไม่ได้ผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ความไม่เป็นกลางทางการเมืองจะผิดตามมติคณะรัฐมนตรี และกฎหมายข้าราชการพลเรือน แต่บางครั้งการใช้ตำแหน่งหน้าที่ก็อาจจะเกี่ยวเนื่องกับความไม่เป็นกลางทางการเมืองด้วย ถ้าแยกแยะออกก็จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ต้องกังวลว่าจะทำผิดหรือไม่ผิด จะทราบทันทีว่าเรากำลังทำอะไร
ขณะที่การร้องเพลงบนเวทีปราศรัยนั้น นายแสวง กล่าวว่า การหาเสียงตามกฎหมายกำหนดว่า อย่าจัดมหรสพ หรือ รื่นเริง ซึ่งคำว่า "รื่นเริง" จะขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างการใช้เพลงของพรรคการเมืองประกอบในการหาเสียง อยากจะให้เป็นการเปิดเพลง เช่น จากแผ่นซีดี แทนการร้องสดและมีการแสดงประกอบ เพราะจะหมิ่นเหม่การจัดงานรื่นเริง ดังนั้นจึงอยากให้หลีกเลี่ยง ซึ่งเรื่องนี้ก็จะอยู่ที่ข้อเท็จจริงด้วยเมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาว่าแต่ละกรณีเป็นอย่างไร
ส่วนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง สามารถร่วมกิจกรรมที่มีงานรื่นเริงได้หรือไม่นั้น นายแสวง กล่าวว่า สำหรับประชาชนทำได้ตามปกติ ไม่ว่าจะจัดงานอะไร แต่ในส่วนของผู้สมัครและพรรคการเมือง ต้องพึงระวังอย่าไปจัดเอง หรือทำเพื่อประโยชน์ในการหาเสียง เพราะกฎหมายห้ามจัดมหรสพและงานรื่นเริง พรรคการเมืองและผู้สมัครต้องพึงระวังในส่วนนี้ แต่สามารถไปร่วมกิจกรรม ไปร่วมงาน หรือหาเสียงได้ แต่อย่าทำผิดกฎหมาย เช่น ไปให้ทรัพย์สิน