นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ถอดบทเรียนการรับสมัครบัญชีรายชื่อ
กกต. คงไม่กล้าออกมาพูดว่า การรับสมัครบัญชีรายชื่อวันแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
1. เอกสารคู่มือแนะนำการสมัคร มีรายการเอกสารที่สมัครไม่ตรงกับที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทำให้พรรคหลายพรรคถึงกับเครียดโดยเฉพาะพรรคใหญ่มากที่เตรียมเอกสารมาตรงคู่มือแต่ไม่ตรงในราชกิจจา แต่สรุปแบบประนีประนอมคือ เอาแบบไหนมาก็ให้สมัครได้ มิเช่นนั้น โดนถล่มเละ
2.ไม่จัดตรวจเอกสารก่อนจับสลาก และไปประกาศว่า อาจเลื่อนเบอร์หากตรวจเอกสารแล้วไม่ครบ แต่พอล่วงเที่ยงการตรวจเอกสารอีกหลายพรรคก็ยังไม่เสร็จ พรรคที่ได้เบอร์ไปแล้ว เขาเริ่ม ปชส. ติดเบอร์ สั่งพิมพ์ป้าย หากเลื่อนเบอร์โดนด่าเละ เลยยอมว่า ไม่เลื่อน โดยยอมให้พรรคที่เอกสารไม่ครบมีเวลาไปหามาให้ครบ
3.สถานที่คับแคบ ต้องลงใต้ดินสามชั้น คนมาก มากพิธีการ ขั้นตอนล่าช้า กำหนดให้แต่ละพรรคนำคนเข้ามาได้ 5 คน แต่บางพรรคมีเส้นสายหรืออย่างไร นำคนเข้ามาเกือบสิบคน โดยส่วนใหญ่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล
4. กกต.มาตอนเปิดและจับสลาก ไม่อยู่ตลอดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่หรือคอยตัดสินใจเมื่อมีปัญหา เช่น จะเลื่อนลำดับหรือไม่เลื่อนหากตรวจเอกสารไม่ครบ แถลงข่าวแบบไม่รู้เรื่อง เช่น เลื่อนลำดับได้ เอกสารที่ตรวจกว่า 20 ชุด (จริง ๆ แค่ 6 ชุด) ปล่อยให้เลขาต้องตัดสินใจเอง ตอนเช้าตัดสินใจอย่าง ตอนบ่ายตัดสินใจอย่าง
ขอชม เลขาธิการ กกต. ที่ทำงานอย่างเข้มแข็งตลอดวัน และยอมรับความจริง
ตอนผมรับเอกสารชิ้นสุดท้าย เวลาประมาณเกือบบ่ายสาม น้อง ๆ ที่ สนง. ยื่นเอกสารให้ผมและส่งสายตาหวาน “อาจารย์ เบา ๆ กับ กกต.หน่อยนะคะ พวกหนูยังทำงานอีกหลายปี”
แสวง บุญมี เลขาธิการพูดเสริมอย่างตรงไปตรงมาน่าชื่นชม
“หากพวกเราไม่ทำอะไรผิด ก็ไม่มีใครว่าได้หรอก”