xs
xsm
sm
md
lg

ผบก.ป.เผยผลสอบ"ชูวิทย์"ปมเงิน 6 ล้าน ขัดแย้งคำให้การ"ทนายตั้ม-อัจฉริยะ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำเงินจำนวน 6 ล้านบาท ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เพื่อตรวจสอบที่มา ที่ไปของเงินจำนวนดังกล่าว ตามที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยที่มาของเงินว่ามาจากสารวัตรซัว และอาจเข้าข่ายผิดฐานฟอกเงินว่า ตำรวจได้มีการสอบถามในประเด็นที่มาที่ไปของเงินว่าเป็นของใคร มาอยู่กับนายชูวิทย์ได้อย่างไร และมามอบให้ในวัตถุประสงค์ใด พร้อมทั้งระบุว่ามีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย อาทิ นายพล ป. นายพล อ. รวมถึงบุคคลที่มีการกล่าวอ้างหรือไม่

ซึ่งยืนยันว่า นายชูวิทย์ จะให้การอย่างไรถือว่าเป็นสิทธิ์ของนายชูวิทย์ แต่ตำรวจก็มีสิทธิ์ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อคำให้การก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะที่ผ่านมาตำรวจมีหลักฐานจากการโพสต์ ไลฟ์สด และการแถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนของนายชูวิทย์ ที่ต้องนำมาพิจารณาและพิสูจน์ว่าข้อมูลใดเป็นเท็จหรือจริง เบื้องต้นเชื่อว่าก่อนจะเข้าให้การ นายชูวิทย์ มีการปรึกษาฝ่ายกฎหมายมาก่อนแล้ว เนื่องจากกรณีดังกล่าวอาจจะมีความพัวพันกับความผิดมูลฐานฟอกเงิน เพราะเงินจำนวนดังกล่าวถูกระบุไว้ว่า เป็นเงินของสารวัตรซัว ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ และดำเนินคดีในความผิดเรื่องการจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ ตำรวจสอบสวนกลางในฐานะคนกลาง จึงต้องตรวจสอบในทุกมิติ และจะต้องเชิญนายพล ป. นายพล อ. นายเปา นายศักดิ์ ที่มีข้อมูลว่าอยู่ด้วยกันในวันที่มีการส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าว ให้กับนายชูวิทย์ ที่โรงแรมเดอะเดวิส มาสอบปากคำด้วย

ทั้งนี้ การให้การของนายชูวิทย์เมื่อวานนี้ถือว่าเป็นการให้ปากคำอย่างเป็นทางการกับพนักงานสอบสวนครั้งแรกของคดีเงิน 6 ล้านบาท ส่วนการให้สัมภาษณ์ไลฟ์สด หรือโพสต์ต่างๆ ก่อนหน้านี้ ไม่ถือว่าเป็นการให้ถ้อยคำแต่อย่างใด

ส่วนนายษิทธา​ เบี้ยบังเกิด​ หรือ​ ทนายตั้ม​ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนถึงกรณีเรื่องเงิน6ล้านบาทเรียร้อยแล้ว ซึ่งคำให้การของทั้ง 2 ไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกับนายชูวิทย์

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว พนักงานสอบสวนจะนัดหมายประชุมหารืออีกครั้งในสัปดาห์หน้า เพื่อวางกรอบการทำงานพิสูจน์ข้อเท็จจริงของเรื่องราวทั้งหมด อีกทั้งต้องตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินจำนวนดังกล่าวด้วย แต่เพราะการดำเนินคดีกับสารวัตรซัว ยังไม่ได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับพนันออนไลน์ ทำให้เงิน 6 ล้านบาท อาจจะยังไม่เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะให้ความเป็นทำกับทุกฝ่าย ถึงแม้ว่านายชูวิทย์จะเคยเป็นผู้ร้องเรียนให้ทางกองบัญชาการสอบสวนกลาง ตรวจสอบ สว.ซัว ว่าเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์หรือไม่ แต่ในเมื่อนายชูวิทย์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเงิน6ล้านบาท ที่ก่อนหน้านี้มีการกล่าวอ้างว่าเป็นของสารวัตรซัว ตำรวจจะต้องตัวสอบอย่างละเอียด ทำงานอย่างเต็มที่ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย