สำนักงานศาลปกครองแจ้งว่า วันที่ 30 มีนาคม 2566 เวลา 13.30 น. ศาลปกครองสูงสุดนัดไต่สวนใน 3 คดี ที่มีผู้ยื่นฟ้องขอเพิกถอนประกาศ กกต. เรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้ง ลงวันที่ 16 มีนาคม 2566 โดยคดีแรก เป็นคดีที่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ยื่นฟ้องว่า ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งดังกล่าว โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกรุงเทพมหานคร มีการรวมเฉพาะแขวงโดยไม่มีเขต หรืออำเภอหลัก มาเป็นเขตเลือกตั้งใหม่ ทั้งที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 27 (1) กำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งเขตให้ “รวมอำเภอต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง” ประกาศแบ่งเขตของ กกต. จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนคดีที่ 2 เป็นคดีที่ นายพัฒ ตั้งเบญจผล ผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุโขทัย ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ฟ้องว่า ประกาศแบ่งเขตดังกล่าวของ กกต. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก การแบ่งเขตการเลือกตั้ง รูปแบบที่ 1 เป็นการรวมตำบลเพื่อกำหนดเป็นเขตเลือกตั้ง โดยไม่ได้ยึดหลักเกณฑ์รวมอำเภอต่างๆ เป็นเขตการเลือกตั้ง ตามหลักเกณฑ์ที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 27 กำหนดไว้ ส่งผลให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง และกระทบสิทธิของประชาชนสร้างความสับสนในการใช้สิทธิเลือกตั้ง และกระทบต่อจำนวนราษฎรผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง
คดีที่ 3 เป็นคดีที่ นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ฟ้องว่า ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งดังกล่าว โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ จ.สุโขทัย ไม่ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงความคิดเห็นของผู้ฟ้องคดี ซึ่งเหมาะสมกว่ารูปแบบดังกล่าว ส่อไปในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ยึดถือตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เป็นการใช้ดุลพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุโขทัย อย่างชัดแจ้ง ประกาศดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนคดีที่ 2 เป็นคดีที่ นายพัฒ ตั้งเบญจผล ผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุโขทัย ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ฟ้องว่า ประกาศแบ่งเขตดังกล่าวของ กกต. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก การแบ่งเขตการเลือกตั้ง รูปแบบที่ 1 เป็นการรวมตำบลเพื่อกำหนดเป็นเขตเลือกตั้ง โดยไม่ได้ยึดหลักเกณฑ์รวมอำเภอต่างๆ เป็นเขตการเลือกตั้ง ตามหลักเกณฑ์ที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 27 กำหนดไว้ ส่งผลให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง และกระทบสิทธิของประชาชนสร้างความสับสนในการใช้สิทธิเลือกตั้ง และกระทบต่อจำนวนราษฎรผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง
คดีที่ 3 เป็นคดีที่ นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ฟ้องว่า ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งดังกล่าว โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ จ.สุโขทัย ไม่ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงความคิดเห็นของผู้ฟ้องคดี ซึ่งเหมาะสมกว่ารูปแบบดังกล่าว ส่อไปในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ยึดถือตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เป็นการใช้ดุลพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุโขทัย อย่างชัดแจ้ง ประกาศดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย