จากกรณีชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จับกุมผู้ต้องหาค้าประเวณีและการค้ามนุษย์ได้ 2 ราย ที่บาร์แห่งหนึ่ง ในซอยซีดราก้อน ถนนบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมช่วยเหยื่อที่เป็นหญิงสาวอายุต่ำกว่า 15 ปี และต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 6 คน เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น
วันนี้ (18 มี.ค.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ประชุมชุดสืบสวนสอบสวน ที่ห้องประชุม ภ.จว.ภูเก็ต เพื่อขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ ที่มีชาวต่างชาติร่วมอยู่ด้วย รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด
ทั้งนี้ ทางตำรวจได้มีการทำงานไว้บ้างแล้ว ส่วนเพิ่มเติมคือการขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมกับเจ้าของที่แท้จริง ซึ่งจากการสืบสวนเชื่อว่า ส่วนหนึ่งเป็นนอมินี ในเครือข่ายทั้งหมด มีทั้งพัทยา กรุงเทพฯ และย่านบางรัก เพราะฉะนั้น การนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 เข้ามาค้าประเวณี เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ทั้งสิ้น คาดว่าทางเจ้าของที่แท้จริง คือ นายรอนนี่ น่าจะมีการทำมาระยะหนึ่งแล้ว อาจจะเริ่มในกรุงเทพฯ ก่อน จึงต้องไล่ตรวจสอบทั้งหมดว่านายรอนนี่เป็นใคร และเข้ามาอยู่ในเมืองไทยอย่างไร ใช้วีซ่าอะไร ส่วนหุ้นส่วนที่เป็นต่างชาติเช่นกัน ที่มีการสมรสกับหญิงไทย ต้องมาดูว่าการจดทะเบียนนั้น เพื่อเป็นการอำพรางที่จะให้อยู่เมืองไทยใช่หรือไม่ รวมถึงผู้ใช้บริการเด็ก ต้องดำเนินคดีทั้งหมด พร้อมทั้งเจ้าของที่แท้จริง
วันนี้ (18 มี.ค.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ประชุมชุดสืบสวนสอบสวน ที่ห้องประชุม ภ.จว.ภูเก็ต เพื่อขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ ที่มีชาวต่างชาติร่วมอยู่ด้วย รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด
ทั้งนี้ ทางตำรวจได้มีการทำงานไว้บ้างแล้ว ส่วนเพิ่มเติมคือการขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมกับเจ้าของที่แท้จริง ซึ่งจากการสืบสวนเชื่อว่า ส่วนหนึ่งเป็นนอมินี ในเครือข่ายทั้งหมด มีทั้งพัทยา กรุงเทพฯ และย่านบางรัก เพราะฉะนั้น การนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 เข้ามาค้าประเวณี เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ทั้งสิ้น คาดว่าทางเจ้าของที่แท้จริง คือ นายรอนนี่ น่าจะมีการทำมาระยะหนึ่งแล้ว อาจจะเริ่มในกรุงเทพฯ ก่อน จึงต้องไล่ตรวจสอบทั้งหมดว่านายรอนนี่เป็นใคร และเข้ามาอยู่ในเมืองไทยอย่างไร ใช้วีซ่าอะไร ส่วนหุ้นส่วนที่เป็นต่างชาติเช่นกัน ที่มีการสมรสกับหญิงไทย ต้องมาดูว่าการจดทะเบียนนั้น เพื่อเป็นการอำพรางที่จะให้อยู่เมืองไทยใช่หรือไม่ รวมถึงผู้ใช้บริการเด็ก ต้องดำเนินคดีทั้งหมด พร้อมทั้งเจ้าของที่แท้จริง