นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว รายงานว่า ช่วง 2 เดือนแรกของปี 2566 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 รวม 113 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 37 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 76 ราย มีเงินลงทุนรวม 26,756 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 1,651 คน
สำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 25 ราย ร้อยละ 22 เงินลงทุน 8,545 ล้านบาท สิงคโปร์ 19 ราย ร้อยละ 17 เงินลงทุน 3,090 ล้านบาท สหรัฐฯ 13 ราย ร้อยละ 12 เงินลงทุน 1,314 ล้านบาท ขณะที่จีนแม้ลงทุน 10 ราย หรือร้อยละ 9 แต่มีเงินลงทุนมากถึง 10,987 ล้านบาท ส่วนสมาพันธรัฐสวิส 6 ราย ร้อยละ 5 เงินลงทุน 966 ล้านบาท รวมถึงการลงทุนจากทุกชาติจะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย
สำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 25 ราย ร้อยละ 22 เงินลงทุน 8,545 ล้านบาท สิงคโปร์ 19 ราย ร้อยละ 17 เงินลงทุน 3,090 ล้านบาท สหรัฐฯ 13 ราย ร้อยละ 12 เงินลงทุน 1,314 ล้านบาท ขณะที่จีนแม้ลงทุน 10 ราย หรือร้อยละ 9 แต่มีเงินลงทุนมากถึง 10,987 ล้านบาท ส่วนสมาพันธรัฐสวิส 6 ราย ร้อยละ 5 เงินลงทุน 966 ล้านบาท รวมถึงการลงทุนจากทุกชาติจะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย