นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงการจัดทำนโยบายของพรรค ที่เปิดไปแล้ว 5 ข้อแล้ว หลังจากนี้จะทยอยเปิดออกมาเป็นระยะ เมื่อวานเป็นเพียงลอตแรกเท่านั้น ซึ่งตนเองจะเป็นผู้ดำเนินการด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเปิดเผยนโยบายก็จะมีการหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกันอยู่ตลอด พร้อมย้ำว่า การบริหารงานภายในพรรคจะเป็นการบริหารงานแบบพี่-น้อง แต่ในทางปฏิบัติ จะแบ่งงานกันทำโดยไม่ก้าวก่ายกัน
ส่วนการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้จะอยู่ระหว่างการรักษาอาการมือบวมก็ตาม ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ แค่มือเจ็บไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับการลงพื้นที่หาเสียง
ส่วนการลงพื้นที่ตรวจราชการของ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเพิ่มความระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบพรรคการเมือง นายพีระพันธุ์ ระบุว่าเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งแล้ว ก็จะต้องเพิ่มความระมัดระวัง แต่ตอนนี้ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกา ดังนั้นการตรวจราชการจึงยังคงเป็นไปตามปกติ พร้อมมองว่า ถือเป็นเรื่องปกติทางการเมืองที่พรรคต่างๆ เริ่มโจมตีนโยบายของคู่แข่ง ตนเองอยู่ในการเมืองมา 30 ปี ก็มีเรื่องเช่นนี้มาโดยตลอด แต่ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะทำให้ดีที่สุด ไม่กล่าวหาพรรคอื่น
นายพีระพันธุ์ ยืนยันด้วยว่าแม้จะใกล้ยุบสภาแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องมีการปรับลุคให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยให้เป็นตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์ จะดีที่สุด
นายพีระพันธุ์ ยอมรับด้วยว่า ขณะนี้มีความชัดเจน ในระดับหนึ่งแล้ว แล้วที่ นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ และนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ จะย้ายมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค