xs
xsm
sm
md
lg

"เศรษฐา"ไม่หวั่น"ชูวิทย์"ขู่แฉ เดินหน้าช่วยเพื่อไทยหาเสียงครั้งแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการลงพื้นที่ กทม. นายนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองเตย พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ชุมชน 70 ไร่ เขตคลองเตย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่นายเศรษฐา ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้พรรคเพื่อไทย หลังรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยได้เยี่ยมชมมูลนิธิครูประทีป พร้อมรับฟังปัญหาจากชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย คุณภาพชีวิต เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ความปลอดภัย การศึกษา การรักษาพยาบาล

นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขทุกมิติ การย้ายที่อยู่อาศัยไม่ใช่การแก้ปัญหา และต้องมีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะนำเรื่องนี้ไปให้ทีมนโยบายของพรรคพิจารณา ส่วนเรื่องค่าแรง มั่นใจและให้สัญญาได้ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้ใจให้เป็นรัฐบาล เชื่อว่าค่าแรงขั้นต่ำจะสูงกว่า 600 บาท แน่นอน

นายเศรษฐา เปิดเผยว่า เป็นการลงพื้นที่ครั้งแรก ซึ่งได้มาเจอปัญหาและความคับแค้นใจของประชาชน โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ยอมรับว่าเป็นปัญหาที่ยาก ซับซ้อน มีหลายมิติ ซึ่งหลังรับฟังปัญหาก็จะไปหารือกับทีมงานเพื่อหาคำตอบ พร้อมบอกกับชาวคลองเตยว่า จะกลับมาพร้อมคำตอบ และไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของปัญหาได้ เพราะทุกปัญหาสำคัญหมด ต้องแก้ไปพร้อมกันทุกมิติ แต่อะไรที่ทำได้ก่อนก็จะทำทันที และให้ความมั่นใจว่า หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะทำให้ได้ตามที่รับปาก และหลังจากนี้จะพยายามลงพื้นที่กับพรรคเพื่อไทยให้ได้มากที่สุด ทุกเวที ทุกจังหวัด เพื่อรับฟังปัญหาและรวบรวมข้อมูลนำไปสู่การแก้ไข และจะทยอยเปิดนโยบายออกมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์กรุงเทพฯ ได้หรือไม่ อยู่ที่ประชาชน หน้าที่ของตนและพรรคเพื่อไทย คือการนำเสนอนโยบายที่มั่นใจว่าจะโดนใจประชาชน

นายเศรษฐา กล่าวยอมรับว่า ส่วนตัวรู้จักนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง แต่ไม่ใช่เพียงคนเดียว เพราะมีเพื่อนฝูงอีกหลายคนที่ให้กำลังใจในการทำหน้าที่ เสนอแนะให้รักษามาตรฐานการทำงาน ซึ่งคนที่รักกันชอบกันก็ให้กำลังใจ และหวังว่าจะเป็นตัวของตัวเอง ขณะที่การออกมาเปิดเผยข้อมูลของนายชูวิทย์ ถือเป็นหน้าที่ของแต่ละคน ซึ่งตนก็มีหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในการให้คำแนะนำ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และเปิดนโยบายก่อน เปรียบเหมือนเป็นช่วงเวลาการกวดวิชาที่สั้น แต่ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด จะลงพื้นที่ให้มากขึ้น

เมื่อถามว่า มีความหวั่นใจหรือไม่ หากนายชูวิทย์ ระบุว่า หากทำไม่ดีจะแฉ นายเศรษฐา บอกว่า ตนเป็นนักธุรกิจมาก่อน และการเข้ามาสู่มิติใหม่ของช่วงเวลาชีวิต แต่หากจะบอกว่าไม่กลัวเลย ก็เป็นการโกหก ถึงเวลาแล้วที่ตนจะทำหน้าที่ที่ชายคนหนึ่งสะสมประสบการณ์มา 30 ปี และอยากที่จะนำเสนอตัวเองในพรรคเพื่อไทย พรรคที่มีนโยบายโดนใจประชาชน ก่อนย้ำจะทำให้ดีที่สุด จึงอยากขอโอกาส พร้อมกล่าวย้ำจะชี้แจงทุกข้อสงสัยและทุกคำถามที่เกี่ยวกับตนเอง