พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาเหตุเดือดร้อนจากการเปิดเพลง หรือแสดงดนตรีเสียงดัง โดยมี นายสุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารเขตพระนคร สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ผู้แทนสถานประกอบการถนนข้าวสาร 30 ราย ผู้แทนชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า)
นายสุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและชุมชนใกล้เคียงถนนข้าวสาร ว่าได้รับเหตุเดือดร้อนจากการเปิดเพลงหรือแสดงดนตรีเสียงดัง วันนี้จึงประชุมร่วมกับ บชน. สถานีตำรวจนครบาลท้องที่ สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร สถานประกอบการถนนข้าวสาร และผู้แทนชุมชน เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา ซึ่งที่ประชุมมีฉันทามติร่วมกันในการขอความร่วมมือสถานประกอบกิจการประเภท ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มควบคุมระดับเสียงเพลงหรือการแสดงดนตรีที่ดัง โดยให้ปรับปรุงแก้ไขภายใน 15 วัน ประกอบด้วย
1.สถานประกอบกิจการที่เปิดเพลงหรือแสดงดนตรีควรเป็นอาคารที่ปิดมิดชิด ผนังต้องทำด้วยวัสดุที่สามารถป้องกันเสียงดังและความสั่นสะเทือนอย่างมีประสิทธิภาพไม่ก่อให้เกิดเสียงดังรบกวนแก่ผู้พักอาศัยข้างเคียง
2.ควบคุมระดับเสียงภายในสถานประกอบการ โดยค่าเฉลี่ยของระดับเสียงตลอดระยะเวลาทำการต้องมีค่าไม่เกิน 90 เดซิเบลเอ และค่าระดับเสียงสูงสุด ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ไม่เกิน 110 เดซิเบลเอ และค่าระดับเสียงที่ดังถึงชุมชนต้องไม่เกิน 10 เดซิเบลเอ
3.ในระหว่างเวลาทำการ ต้องมีการหยุดหรือลดระดับเสียงจากการแสดงคนตรีหรือการเปิดเพลง เป็นระยะๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการพักจากการสัมผัสเสียงดัง
4.ห้ามติดตั้งลำโพงด้านหน้าหรือนอกอาคารสถานประกอบกิจการของตน เพื่อป้องกันเสียงดังรบกวนผู้พักอาศัยข้างเคียง
5.ให้ติดตั้งเครื่องตรวจวัดระดับเสียงและแสดงผลการตรวจวัดผ่านทางจอแสดงผล เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ทราบถึงระดับเสียงในขณะนั้น และสามารถพิจารณาการป้องกันตัวเองได้ ทั้งนี้ หากพ้นกำหนดแล้วสถานประกอบการใดที่ไม่ทำการปรับปรุง กรุงเทพมหานครจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดโดยความเห็นชอบของสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร