นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานเฉลิมฉลอง ปีแห่งนวัตกรรมไทย-ฝรั่งเศส ปี 2566 (2023 Thailand-France Year of Innovation) ในวันนี้ (27 ม.ค.) ภายใต้หัวข้อ อวกาศ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระดับทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐฝรั่งเศส และสะท้อนศักยภาพทางนวัตกรรมของทั้งสองประเทศ โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสมาชิกวุฒิสภา, นายโอลิวิเย่ เบชท์ รัฐมนตรีด้านการค้าต่างประเทศของฝรั่งเศสและสังกัดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุโรปและการต่างประเทศ, นางโคลดี แอกแนร์ อดีตนักบินอวกาศหญิงคนแรกของฝรั่งเศส, พลเอก ชอง ปิแอร์ แอกแนร์ อดีตนักบินอวกาศฝรั่งเศส, นายตีแยรี มาตู เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย, นายโอลิวิเย่ ดาเก เจ้าของมูลนิธิหนังสือเจ้าชายน้อย (Le Petit Prince), เยาวชน และผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วม
นางสาวตรีนุช เปิดเผยว่า ความร่วมมือ ปีแห่งนวัตกรรมไทย-ฝรั่งเศส ปี 2566 มาจาก นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้เดินทางมาพบกับนายกรัฐมนตรีไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยทั้งสองประเทศได้ร่วมหารือกันจัดงานขึ้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านนวัตกรรมระหว่างไทยกับฝรั่งเศส โดยมุ่งเน้นความร่วมมือใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านอวกาศ ด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green (BCG) Economy) ด้านสุขภาพ และด้านอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์อันดีและมีความร่วมมือกันในหลายด้าน รวมถึงด้านการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งเสริมและปลูกฝังความคิดในการคิดค้นนวัตกรรมให้กับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะด้าน อวกาศ ที่เป็นหัวข้อของงานเปิดตัวในวันนี้ เป็นหัวข้อที่เด็กและเยาวชนสนใจและสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้ ตนเชื่อว่า ความร่วมมือนี้จะช่วยให้เด็กและเยาวชนเกิดแรงจูงใจต่อการศึกษาและการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมาสร้างอนาคตที่ดีให้กับประเทศชาติต่อไปได้
นางสาวตรีนุช เปิดเผยว่า ความร่วมมือ ปีแห่งนวัตกรรมไทย-ฝรั่งเศส ปี 2566 มาจาก นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้เดินทางมาพบกับนายกรัฐมนตรีไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยทั้งสองประเทศได้ร่วมหารือกันจัดงานขึ้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านนวัตกรรมระหว่างไทยกับฝรั่งเศส โดยมุ่งเน้นความร่วมมือใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านอวกาศ ด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green (BCG) Economy) ด้านสุขภาพ และด้านอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์อันดีและมีความร่วมมือกันในหลายด้าน รวมถึงด้านการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งเสริมและปลูกฝังความคิดในการคิดค้นนวัตกรรมให้กับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะด้าน อวกาศ ที่เป็นหัวข้อของงานเปิดตัวในวันนี้ เป็นหัวข้อที่เด็กและเยาวชนสนใจและสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้ ตนเชื่อว่า ความร่วมมือนี้จะช่วยให้เด็กและเยาวชนเกิดแรงจูงใจต่อการศึกษาและการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมาสร้างอนาคตที่ดีให้กับประเทศชาติต่อไปได้