นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เดือนธันวาคม 2565 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 111,605 คัน เพิ่มขึ้น 10.17% จากเดือนเดียวกันของปี 2564 นับเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 3 ปี 9 เดือน โดยในเดือนธันวาคม ส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ทำให้การส่งออกรถยนต์ทั้งปี 2565 ทะลุ 1 ล้านคัน อีกครั้ง จากเป้าที่ตั้งไว้ตอนต้นปีที่ 1,000,256 คัน เพิ่มขึ้น 4.28% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า มีมูลค่าการส่งออก 619,348.06 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัญหาการขาดพื้นที่จอดรถยนต์ในเรือขนส่งรถยนต์
ด้านยอดการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในเดือนธันวาคม มีทั้งสิ้น 158,606 คัน เพิ่มขึ้น 2.75% จากปีก่อน เพราะได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ของรถยนต์หลายรุ่นดีขึ้น โดยเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือนธันวาคม 2565 อยู่ที่ 72,840 คัน ลดลง 5.13% ซึ่งทั้งปี 2565 อยู่ที่ 846,198 คัน เพิ่มขึ้น 16.05%
ทำให้ยอดผลิตรถยนต์ตลอดทั้งปี 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,883,515 คัน เพิ่มขึ้น 11.73% จากปีก่อน ทะลุสถิติสูงกว่าคาดการณ์ที่เคยตั้งเป้าไว้
สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนธันวาคม 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 82,799 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อน 9.02% เพราะผลิตลดลงจากการขาดชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ของรถยนต์บางรุ่น และปัญหาน้ำท่วมบางพื้นที่ แม้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามากว่า 10 ล้านคน มีการลงทุนการจ้างงานเพิ่มขึ้นตลอด
ทั้งนี้ ส.อ.ท. ตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ในปี 2566 อยู่ที่ 1,950,000 คัน โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออก 1,050,000 คัน เพิ่มขึ้น 1.22% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ อยู่ที่ 900,000 คัน เพิ่มขึ้น 6.36%
ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนธันวาคม 2565 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 2,680 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ถึง 458.33% ทำให้ทั้งปี 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 20,815 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่ 274.64%