นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (17 ม.ค.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย CEO & Co-Founder บริษัท อีเทลลิเจนซ์ จำกัด CEO & Co-Founder บริษัท เทลสกอร์ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทราวิซโก เทคโนโลยี จำกัด เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อนำเสนอนิทรรศการแนวทางการขับเคลื่อนให้เกิดการเชื่อมโยงและยกระดับผู้ประกอบการไทย หรือ d-CONNECTIVTY โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย
นายอนุชา เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการนำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนให้เกิดการเชื่อมโยงและยกระดับผู้ประกอบการไทย หรือ d-CONNECTIVTY ผ่าน 2 โครงการสำคัญ ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด Digital Infinity-ดิจิทัลไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี) ประกอบด้วย บริษัท ทราวิซโก เทคโนโลยี จำกัด บริษัท เทลสกอร์ จำกัด และ บริษัท อีเทลลิเจนซ์ จำกัด โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (สศด.) ได้ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านแนวทางการขับเคลื่อนให้เกิดการเชื่อมโยงและยกระดับผู้ประกอบการไทยใน 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการเปิดเมือง เปิดท่องเที่ยวไทยด้วยดิจิทัล ที่มีการพัฒนา ThailandCONNEX แพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวแห่งชาติ (National Digital Tourism Platform) เพื่อเป็นตัวกลางเชื่อมต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวประเภทต่างๆ ทั่วไทยกับ Online Travel Agents (OTAs) ของดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยและ OTAs ที่ดำเนินการอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในทางกลับกัน OTAs ไทยและต่างชาติจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรการท่องเที่ยวของไทยได้ง่ายขึ้น และอีกหนึ่งโครงการ คือ CONNEXION แพลตฟอร์มสร้างอาชีพคนรุ่นใหม่ พัฒนา e-commerce เพื่อยกระดับ และสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล พร้อมสร้างความตระหนัก และความสามารถในการรับรู้ สำหรับประชาชนผู้ว่างงาน และนักศึกษาจบใหม่ที่กำลังหางาน ให้พร้อมประกอบอาชีพใหม่ในยุควิถีใหม่ โดยเป็นแพลตฟอร์มหลักสูตรพัฒนาองค์ความรู้ ครอบคลุม 6 หลักสูตร ใน 6 ภูมิภาค พร้อมแพลตฟอร์ม Big Data ที่จะช่วยยกระดับศักยภาพธุรกิจและอุตสาหกรรม e-commerce สัญชาติไทย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะต้องจัดทำแพลตฟอร์มเพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึง นำข้อมูลไปพัฒนากลยุทธ์การตลาด เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จในขั้นต้น ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างอาชีพและรายได้แก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และธุรกิจอีคอมเมิร์ซของไทย โดยข้อมูลที่ได้รับการจัดเก็บในแพลตฟอร์ม จะเป็นส่วนช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เร่งต่อยอดให้เกิดการเชื่อมโยง เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้ง 2 โครงการจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวไปสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้อย่างมั่นคง