นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เน้นย้ำให้เร่งการดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อผลักดันความร่วมมือไทยและสหภาพยุโรป ให้มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม หลังไทยและสหภาพยุโรปได้ลงนามร่าง PCA EU-Thai พร้อมมุ่งเน้นผลประโยชน์ของไทยและประชาชนชาวไทย
นายอนุชา กล่าวว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีร่วมในพิธีลงนามร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านระหว่างสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกฝ่ายหนึ่งกับราชอาณาจักรไทยอีกฝ่ายหนึ่ง หรือ PCA EU-Thai ในระหว่างการประชุมยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา
สำหรับการดำเนินการขั้นต่อไป กระทรวงการต่างประเทศเตรียมจะจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเพิ่มเติม และเพื่อให้ร่าง PCA มีผลบังคับใช้ คณะรัฐมนตรีจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบในการให้สัตยาบันต่อร่าง PCA เพื่อให้มีผลผูกพันไทย สำหรับการลงนามร่าง PCA หลังใช้เวลาเจรจากันมานานกว่า 18 ปี นับว่าเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ที่จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปให้เป็นใกล้ชิดยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เป็นโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ซึ่งสามารถต่อยอดในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับการบริหารจัดการในสาขาต่างๆให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงกฎระเบียบของไทยให้ทันสมัยสอดคล้องกับมาตรฐานสากลและกระแสการพัฒนาของโลก ทำให้เป็นพื้นฐานสำคัญไปสู่การเปิดการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-อียู รอบใหม่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียึดมั่นผลประโยชน์ของประเทศ และชาวไทย มุ่งยกระดับความสัมพันธ์กับมิตรประเทศให้ก้าวหน้า ซึ่งการลงนามร่าง PCA กับสหภาพยุโรป นอกจากจะช่วยกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับสหภาพยุโรปแล้ว ยังจะช่วยเพิ่มโอกาส เพิ่มช่องทางทางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศอีกด้วย