นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ว่า มาตรการในภาพรวมคือการกำจัดต้นตอให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีการตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่นมาตลอด ตอนนี้โฟกัสที่ท่าเรือ และรถบรรทุก และหากใครพบต้นตอแหล่งกำเนิดมลพิษ สามารถแจ้งเบาะแสผ่านทาง Traffy Fondue ได้ และจะมีการเพิ่มเซนเซอร์ตรวจฝุ่นให้มากขึ้น ส่วนเรื่องการเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าต้องเป็นภาพรวมของทั้งประเทศ
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครเริ่มแผนการตรวจฝุ่นทุกวัน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 แล้ว เช่น วันนี้มีตรวจสถานประกอบการโรงงานของสำนักงานเขต 43 แห่ง ในพื้นที่ 10 เขต สถานที่ก่อสร้างของสำนักงานเขต 27 แห่ง ในพื้นที่ 5 เขต สถานที่ก่อสร้างของสำนักโยธา 46 แห่ง แพลนท์ปูนของสำนักงานเขต 27 แห่ง ใน 7 เขต ถมดินของสำนักงานเขต 4 แห่ง รวมทั้งตั้งจุดตรวจสอบตรวจจับรถยนต์ปล่อยควันดำ 20 จุด และตรวจรถควันดำในสถานที่ต้นทาง ของสำนักงานเขต 24 แห่ง ในพื้นที่ 5 เขต
ผู้ว่าราาชกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนออกจากบ้านก็อย่าลืมเปิดแอปพลิเคชันเพื่อดูฝุ่นก่อน เพื่อจะได้เตรียมตัวได้ คิดว่าสภาพปัจจุบัน หากสถานการณ์ PM 2.5 เฉลี่ย 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร การใส่หน้ากากป้องกันโควิด-19 ก็พอช่วยกรองฝุ่นได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าฝุ่นมากกว่านี้อาจจะต้องใส่หน้ากากกรอง 2 ชั้น สำหรับสถานการณ์ฝุ่นวันนี้ดีขึ้น เพราะมีลมตะวันออกเฉียงเหนือเข้ามา และมีฝนเล็กน้อยมาช่วย
ส่วนเรื่องการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA ในวันนี้ไม่พบค่าความร้อนสูงผิดปกติในบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ โดยกรุงเทพมหานครได้มีการพูดคุยกับเกษตรกรทั้งหมดในกรุงเทพฯ แล้ว ทั้งมีนบุรี หนองจอก และคลองสามวา ทั้งนี้ หากพบจุดความร้อนในเขตกรุงเทพฯ จะรีบสั่งการให้เทศกิจของเขตนั้นๆ ลงพื้นที่ ณ จุดเกิดเหตุ เพื่อป้องกันต่อไป