ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ร่วมกันจับ น.ส.นภาพร อายุ 33 ปี ในพื้นที่ อ.ท่าเรือ จ. พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการกระทำความผิด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 12/2566 ลงวันที่ 10 มกราคม 2566 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน จากการสอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากเพจในเฟซบุ๊กให้เปิดบัญชีระบบออนไลน์จำนวนสองบัญชี
พฤติการณ์สืบเนื่องจากกรณีเด็กนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อเหตุสลดผูกคอตาย พร้อมเขียนจดหมายลาตายขอโทษพ่อแม่ หลังถูกคนร้ายชักชวนให้ดูโฆษณาผ่านเว็บไซต์ยูทูบเพื่อหารายได้พิเศษ ก่อนที่จะออกอุบายหลอกให้ลงทุนซื้อสินค้า 10 ชิ้น วางขายออนไลน์เก็งกำไร โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า จนเหยื่อหลงเชื่อนำเงินของแม่โอนไปให้ต่อเนื่อง รวม 14,000 บาท
ภายหลังเด็กคนดังกล่าวรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงทวงเงินคืน แต่ คนร้ายไม่ยอมโอนเงินให้ จึงก่อเหตุสลดขึ้น ซึ่งผู้ปกครองของนักเรียนผู้เสียชีวิตรายดังกล่าวเดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร้องขอความเป็นธรรมให้เร่งรัดคดี
ต่อมา ชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องและนำไปสู่การจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเส้นทางการเงินในลักษณะบัญชีม้าของขบวนการดังกล่าว จากการตรวจสอบพบเงินจำนวนดังกล่าวถูกโอนไปยังผู้ต้องหารายนี้ก่อนที่จะโอนต่อไปยังผู้ต้องหาคนอื่นๆ ในขบวนการอีก 3 ราย