รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า 9 มกราคม 2566
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 324,196 คน ตายเพิ่ม 745 คน รวมแล้วติดไป 668,619,304 คน เสียชีวิตรวม 6,713,594 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง และเม็กซิโก
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 92.03 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 86.97
มองสถานการณ์ระบาดในญี่ปุ่น
ระลอกล่าสุดเป็นระลอกที่ 8
สะท้อนให้เห็นว่า Omicron ไม่กระจอก เพราะทำให้เกิดการติดเชื้อจำนวนมากกว่าสองแสนคนต่อวัน แม้จะน้อยกว่าระลอก 7 อยู่บ้าง แต่กลับทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันมีสถิติสูงกว่าทุกระลอกที่เคยมีมา
ลองดูสถิติในกรุงโตเกียวเช้านี้
โรงพยาบาลรับผู้ป่วยโควิด-19 นอนรักษาตัวไปแล้วกว่า 55%
วันที่ผ่านมาติดเชื้อในโตเกียวไปมากกว่า 15,000 คน โดยเป็นคนสูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปเพียง 1,800 กว่าคนเท่านั้น และเสียชีวิตไป 28 คน
ในขณะที่อัตราการได้รับวัคซีนของประชากรในกรุงโตเกียวนั้น มีคนรับเข็มสามไปราว 66% และได้รับ 1-2 โดสไปราว 78%
ข้อมูลที่เห็นจากประเทศญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นว่า ต้องไม่ประมาทโควิด-19 แม้จะมีอัตราฉีดวัคซีนมากแล้วก็ตาม
จะสังเกตว่าข้อมูลจาก Ourworldindata ชี้ให้เห็นว่า อัตราการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นดูจะมากกว่าไทย
การระบาดหนักที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นน่าจะเกิดจากหลายปัจจัย อาทิ ความหนาแน่นประชากร รวมถึงการเปิดรับการท่องเที่ยวโดยมีคนเดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม หากสังเกตให้ดี จะพบว่า จำนวนการเสียชีวิตส่วนเกินจากทุกสาเหตุ (excess mortality) ของไทยนั้นสูงกว่าญี่ปุ่นมาก อาจสะท้อนให้เราต้องตระหนักถึงสถานการณ์จริงในประเทศว่า จำนวนการติดเชื้อ ป่วย และเสียชีวิตทั้งที่มาจากโควิดโดยตรงและที่ติดเชื้อโควิดร่วมกับการมีโรคประจำตัวนั้นอาจสูงกว่าที่เห็นในรายงานประจำสัปดาห์
ยิ่งหากเปิดรับท่องเที่ยวจากประเทศระบาดหนักอย่างเต็มรูปแบบ โอกาสเกิด influx ของผู้ที่ติดเชื้อทั้งที่รู้และไม่รู้ตัว ย่อมทำให้จำนวนการติดเชื้อในพื้นที่สูงขึ้น และจะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อภายในประเทศมากขึ้นในระยะเวลาไม่นาน
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตระหนักถึงสถานการณ์รอบตัว ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวเสมอ
การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ ระหว่างทำงาน เรียน หรือเดินทางท่องเที่ยว จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก