นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้ถือเป็นปีที่มีความท้าทายและมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะรุนแรงมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะมีผลกระทบในเชิงลบต่อการส่งออก การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจไทย อย่างหลีกเลียงไม่ได้
นอกจากนี้ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนวัตถุดิบ ราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อของโลก ยังคงไม่มีความชัดเจนว่าสงครามจะรุนแรงขึ้นหรือคลี่คลายลง กดดันให้ปัญหาราคาพลังงานทั่วโลกยังมีความผันผวน และมีความเสี่ยงในการกดดันภาวะเงินเฟ้อให้สูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับตัวสูงขึ้นมาก ซ้ำเติมการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อาจทำให้ภาวะการค้าของโลกมีอุปสรรคได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในที่สุด
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจไทยยังมีโอกาสที่จะเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจโลก แม้การส่งออกจะชะลอตัวตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ในกรอบร้อยละ 1.0-2.0 จากในปี 2565 ที่คาดว่าจะขยายตัวสูงถึงร้อยละ 7.0-8.0 แต่การท่องเที่ยว การบริโภคภายในประเทศ และการลงทุนภายในประเทศจะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้ในกรอบร้อยละ 3.0-4.0 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ในกรอบร้อยละ 2.7-3.2