เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผกก.4 บก.ปทส.) พร้อมกำลัง และเจ้าหน้าที่ ตชด.346 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตก.6 (ร่มเกล้า) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ สนธิกำลังกว่า 50 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอด (พื้นที่เตรียมการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ)
หลังจาก บก.ปทส. ได้รับการประสานข้อมูลจากสถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด (สพส.) ว่ามีการลักลอบทำไร่ฝิ่นในพื้นที่ดังกล่าว จากนั้นในวันที่ 5 มกราคม 2566 คณะเจ้าหน้าที่ได้ทำการลาดตระเวนยังบริเวณพื้นที่เป้าหมายด้วยวิธีการเดินเท้า พบว่ามีผู้ลักลอบปลูกฝิ่นแทรกอยู่ในป่าเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่อยู่จริง อีกทั้งยังมีการหลบเลี่ยงการตรวจสอบทางอากาศเนื่องจากอยู่ติดตะเข็บชายแดน
สำหรับพื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกฝิ่นนั้น เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศไทยและเมียนมา อยู่ในพื้นที่ป่าเขาสูงชัน เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าลัดเลาะไปตามสันเขาเพื่อเข้าถึงพื้นที่
จากการตรวจสอบไร่ฝิ่น พบว่ามีต้นฝิ่นสูงประมาณ 100-150 เซนติเมตร โดยพบร่องรอยการกรีดและเก็บขี้ฝิ่น (ยาง) ไปแล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้กระทำความผิดได้ทิ้งร่องรอยใหม่ของการกรีดตัดฝิ่นไว้ในไร่ดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่ามีร่องรอยการตัดฝิ่นที่ไม่เป็นระบบระเบียบ และมีต้นฝิ่นบางส่วนที่ยังไม่สามารถตัดได้ทัน เจ้าหน้าที่คาดว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึงพื้นที่ อาจมีผู้ทำหน้าที่ดูต้นทาง ส่งสัญญาณแจ้งให้คนงานรีบกรีดฝิ่นให้เสร็จก่อนการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ และยังไม่สามารถติดตามจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิดได้ เนื่องจากอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้
จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งทำลายไร่ฝิ่นทั้งหมด และจะได้สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดดังกล่าวต่อไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เฝ้าระวังพื้นที่ในป่าลึก เพื่อเป็นการป้องปรามผู้ที่จะกลับเข้ามาลักลอบดูไร่ฝิ่น และเพื่อเตรียมการลาดตระเวนตามแผนอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น
ส่วนอีกจุด คณะเจ้าหน้าที่กำลังทำการลาดตระเวนในพื้นที่เป้าหมาย ตามแผนการปฏิบัติ ได้พบกลุ่มคนจำนวนหนึ่งขับขี่รถยนต์กระบะออกจากพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 2 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก อย่างรวดเร็ว มีเหตุอันควรสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบยังพื้นที่ที่กลุ่มคนดังกล่าวขับขี่รถออกมา เมื่อไปถึงพบมีการแผ้วถางพื้นที่ป่า ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอด โดยมีการแผ้วถางหญ้า ตัดต้นไม้เล็กโดยรอบ และพบการเตรียมเผาต้นไม้ใหญ่โดยขุดเจาะกลางลำต้นไม้เพื่อเตรียมการจุดเผาต่อไป จนพื้นที่ป่าดังกล่าวกลายเป็นที่โล่ง เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกจำนวน 1 แปลง เนื้อที่จำนวน 3-0-08 ไร่ พร้อมด้วยของกลางเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พบพระ เพื่อให้ดำเนินตามกฎหมาย และจะได้ทำการสืบสวนจับกุมตัวผู้กระทำความผิดต่อไป จากนั้นจึงถอนกำลังออกจากพื้นที่ก่อนพลบค่ำเพื่อความปลอดภัย