สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ (5 ม.ค.) ว่า ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมนี้ จีนและฮ่องกงจะเปิดพรมแดนระหว่างกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเป็นการปูทางไปสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและสังคม หลังจากที่หยุดชะงักไป 3 ปี
อย่างไรก็ตาม การฟื้นฟูดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะเป็นไปแบบช้าๆ เนื่องจากฮ่องกงจำกัดจำนวนผู้เดินทางจากฮ่องกงเข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่อยู่ที่วันละ 60,000 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่จะต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 แบบ PCR ที่เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ ด่านตรวจคนเข้าเมืองทางบกบางแห่งยังคงปิดทำการอยู่ เช่น ด่านโหลอู่ ที่เชื่อมต่อไปยังเมืองเซินเจิ้นของจีน
ขณะที่รถไฟความเร็วสูงระหว่างฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งภายในวันที่ 15 มกราคม ส่วนเรือข้ามฟากระหว่างฮ่องกงกับมาเก๊า และฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่ ก็จะกลับมาเปิดให้บริการเช่นกัน ซึ่งผู้โดยสารจะต้องจองการเดินทางผ่านทางออนไลน์
นายจอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวในวันนี้ (5 ม.ค.) ว่า การจำกัดจำนวนผู้เดินทางดังกล่าวแบ่งเป็นผู้เดินทางทางบกวันละ 50,000 คน ส่วนโควต้าอีก 10,000 คน ที่เหลือจะแบ่งไว้สำหรับการเดินทางประเภทอื่น เช่นเรือข้ามฟากและการเดินทางทางอากาศ ซึ่งในจำนวนนี้ไม่นับชาวจีนในฮ่องกงที่เดินทางกลับบ้านในแผ่นดินใหญ่
นายลี กล่าวเพิ่มเติมว่า "เราได้ก้าวไปอีกขั้นเพื่อการกลับคืนสู่ภาวะปกติ โดยเราใกล้จะถึงเป้าหมายแล้ว"