สมเด็จพระสังฆราชประทานพรนายกฯ ทรงเตือนสติให้ใจเย็น อย่าหงุดหงิด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ณ พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ว่า สมเด็จพระสังฆราช ทรงประทานพรและได้พูดคุยเรื่องพระพุทธศาสนา ขอให้ใจเย็น มีสมาธิและสติ ซึ่งถือเป็นพระเมตตาของพระองค์ท่านที่มอบให้

ขณะเดียวกัน ทรงพูดถึงเรื่องความสงบเรียบร้อยและความรักความสามัคคีอย่างที่ได้ประทานในคำขวัญไปแล้ว และสิ่งสำคัญที่สุดคือความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพราะเราไม่เหมือนคนอื่น ต้องมีการทำบุญให้พระให้วัดควบคู่กันไป และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับประชาชน ประเทศอื่นไม่เหมือนกับประเทศไทย ซึ่งตนได้สาธุกราบทูลไปว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งความสมานฉันท์ เป็นกลางไม่มากหรือน้อยเกินไป ขณะเดียวกันประเทศก็ให้ความสำคัญกับศาสนาพุทธ

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามว่าการเมืองจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ แต่หันไปโบกมือทักทายประชาชน

เมื่อถามย้ำว่า สมเด็จพระสังฆราชได้ประทานพรส่วนตัวอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทรงประทานกำลังใจให้ ส่วนเรื่องบ้านเมือง ท่านให้รักและสามัคคี

ขณะที่เป้าหมายทางการเมืองในปี 2566 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำมาอยู่แล้ว ไม่ต้องตั้งเป้าอะไร เพราะเป้าหมายคือประชาชน เป้าหมายที่ทำก็เพื่อประชาชนทั้งหมด

ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่สมเด็จพระสังฆราชทรงตรัสให้ใจเย็นลงหมายความว่าอย่างไร นายกรัฐมนตรี ได้หันมาตอบว่า "ท่านไม่ได้ว่าฉันใจร้อน ไม่ใช่แบบนั้น แต่เพราะเรื่องมันเยอะ ท่านทรงตรัสต่อว่าขอให้ตั้งสติให้ดี อย่าหงุดหงิด" ซึ่งตนเองบอกไปว่าได้พยายามอยู่แล้ว เราไม่ใช่คนที่อยู่ดีๆ จะโมโหเมื่อไร

สำหรับของขวัญในปี 2566 ที่อยากได้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า อยากให้บ้านเมืองสงบ บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า พัฒนาไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยังยืน