เพจพรรคเพื่อไทย โพสต์ระบุว่า “ต้องแยกเส้นแบ่งระหว่างการลงพื้นที่ติดตามนโยบายรัฐบาลกับการลงพื้นที่ไปหาเสียงให้ออก พลเอกประยุทธ์ ต้องไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐ ไม่ใช้เวลาของทางราชการไปหาเสียงที่เป็นการเสี่ยงผิดกฎหมายและเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น”
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศความชัดเจนจะไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยยกข้ออ้างว่าพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้วนั้น
การลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์ ในช่วงที่ผ่านมา และหลังจากนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จะต้องจับตาดูให้ดี ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่สองมาตรฐาน กฎเหล็กคุมเข้มหาเสียง 180 วันก่อนสภาฯครบวาระของ กกต. ต้องไม่ให้นักการเมือง พรรคการเมืองหาประโยชน์
หากพลเอกประยุทธ์พยายามอาศัยช่องโหว่ลงพื้นที่ตีกินหาเสียงแบบคาบลูกคาบดอก กกต.ต้องไม่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ต้องไม่เลือกปฏิบัติ ถ้าพลเอกประยุทธ์ ลงพื้นที่หาเสียงแล้วอ้างว่าไปติดตามนโยบายรัฐบาลก็อ้างไป แต่วันนี้หลายหน่วยงานเกียร์ว่าง แทบไม่รับคำสั่งรัฐบาล เพราะอ่านสัญญาณออกชัดว่า พลเอกประยุทธ์จะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว ดังนั้น จึงไม่น่าจะมีงานอะไรให้ต้องไปติดตามได้แล้ว
.
“กกต. จะต้องไม่เกรงใจรัฐบาล ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม” รองเลขาธิการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ กล่าว