วันนี้ (22 ธ.ค.65) เวลา 10.00 น. สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งภูฏาน เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานแจกันดอกไม้ที่หน้าพระรูป พร้อมลงพระนามเยี่ยมพระอาการประชวร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยมีคณะผู้บริหารโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เฝ้าฯ รับเสด็จ
โอกาสนี้ สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุกแห่งภูฏาน ทรงลงพระนามเยี่ยมในสมุดลงพระนามความว่า "ถึง...เจ้าหญิงอันเป็นที่รัก และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และข้าพเจ้า สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน พร้อมด้วยพสกนิกรชาวภูฏาน ขออวยพรอย่างจริงใจให้ท่านทรงหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว และมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงขึ้นทุกวัน"
ลงพระนามาภิไธย
สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน
การเสด็จพระราชดำเนินมาไทยของสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา เพื่อพระราชทานแจกันดอกไม้ที่หน้าพระรูป พร้อมลงพระนามเยี่ยมพระอาการประชวร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาในครั้งนี้ สะท้อนความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับภูฏาน
ย้อนกลับไปในวันฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อปี 2549 มกุฏราชกุมารจิกมีเสด็จมาไทยในฐานะพระราชอาคันตุกะ
ราชอาณาจักรภูฏานมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับนานาประเทศ แต่มีเพียง 4 ประเทศ ที่มีสถานเอกอัครราชทูตภูฏาน โดยมีไทยเป็นหนึ่งในนั้น อีก 3 ประเทศคืออินเดีย คูเวต และบังคลาเทศ และภูฏาน มีสำนักงานถาวรผู้แทนคณะทูตที่นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ ภูฏานและไทยยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเรื่อยมาทั้งทางด้านการศึกษา การพัฒนา การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม ไอที รวมทั้งด้านธุรกิจ เนื่องจากมีนักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนทำกิจการโรงแรม ก่อสร้างและอาหารในภูฏาน
ทั้งนี้ไทยและภูฏานมีความคล้ายคลึงกันในด้านวัฒนธรรม ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ การปกครองของภูฏานแสดงถึงความใกล้ชิดของสถาบันกับประชาชนในรูปแบบประชาธิปไตย ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งใกล้เคียงกับไทย
ภูฏานเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเรื่องนโยบายความสุขมวลรวมนานาชาติ หรือ Gross National Happiness (GNH) เป็นแนวคิดที่มีขึ้นกว่า 40 ปี เพื่อต้องการเน้นการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ดูแลป่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติ ภูฏานได้ชื่อว่าเป็น "ราชอาณาจักรแห่งมังกรสายฟ้า" เป็นประเทศที่งดงามบนเทือกเขาหิมาลัย และเป็นประเทศที่น้อมนำนโยบายความสุข เพื่อเสริมสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้แก่ประชากรกว่า 7 แสนคน ในประเทศที่เป็นที่เรียกขานว่า "ดินแดนแห่งความสุข"
โอกาสนี้ สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุกแห่งภูฏาน ทรงลงพระนามเยี่ยมในสมุดลงพระนามความว่า "ถึง...เจ้าหญิงอันเป็นที่รัก และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และข้าพเจ้า สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน พร้อมด้วยพสกนิกรชาวภูฏาน ขออวยพรอย่างจริงใจให้ท่านทรงหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว และมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงขึ้นทุกวัน"
ลงพระนามาภิไธย
สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน
การเสด็จพระราชดำเนินมาไทยของสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา เพื่อพระราชทานแจกันดอกไม้ที่หน้าพระรูป พร้อมลงพระนามเยี่ยมพระอาการประชวร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาในครั้งนี้ สะท้อนความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับภูฏาน
ย้อนกลับไปในวันฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อปี 2549 มกุฏราชกุมารจิกมีเสด็จมาไทยในฐานะพระราชอาคันตุกะ
ราชอาณาจักรภูฏานมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับนานาประเทศ แต่มีเพียง 4 ประเทศ ที่มีสถานเอกอัครราชทูตภูฏาน โดยมีไทยเป็นหนึ่งในนั้น อีก 3 ประเทศคืออินเดีย คูเวต และบังคลาเทศ และภูฏาน มีสำนักงานถาวรผู้แทนคณะทูตที่นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ ภูฏานและไทยยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเรื่อยมาทั้งทางด้านการศึกษา การพัฒนา การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม ไอที รวมทั้งด้านธุรกิจ เนื่องจากมีนักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนทำกิจการโรงแรม ก่อสร้างและอาหารในภูฏาน
ทั้งนี้ไทยและภูฏานมีความคล้ายคลึงกันในด้านวัฒนธรรม ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ การปกครองของภูฏานแสดงถึงความใกล้ชิดของสถาบันกับประชาชนในรูปแบบประชาธิปไตย ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งใกล้เคียงกับไทย
ภูฏานเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเรื่องนโยบายความสุขมวลรวมนานาชาติ หรือ Gross National Happiness (GNH) เป็นแนวคิดที่มีขึ้นกว่า 40 ปี เพื่อต้องการเน้นการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ดูแลป่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติ ภูฏานได้ชื่อว่าเป็น "ราชอาณาจักรแห่งมังกรสายฟ้า" เป็นประเทศที่งดงามบนเทือกเขาหิมาลัย และเป็นประเทศที่น้อมนำนโยบายความสุข เพื่อเสริมสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้แก่ประชากรกว่า 7 แสนคน ในประเทศที่เป็นที่เรียกขานว่า "ดินแดนแห่งความสุข"